
การคัดเลือกตามธรรมชาติ

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
จริงหรือเท็จ? สปีชีส์จะเหมือนเดิมเสมอ; ลักษณะเฉพาะของมันจะไม่เปลี่ยนไปตามเวลา
มีใครเห็นนกนั่นไหม แทบจะมองไม่เห็นเลยใช่ไหมล่ะ โอ้ มันบินไปโน่นแล้ว สัตว์บางชนิดก็จะเปลี่ยนสภาพไป ตามสภาพแวดล้อมที่มันอยู่ พวกมันจะกลมกลืนไปกับใบไม้ เปลือกไม้ หรือมอสส์ นั่นทำให้มันหลุดพ้นจากสายตา ของศัตรู หรือแม้แต่เหยื่ออันโอชะ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีลักษณะ ที่เฉพาะตัว ซึ่งจะทำให้เกิดความเหมาะสม ตามสภาพแวดล้อมที่มันอยู่ หรือเป็นตัวเปิดทางให้เกิดการ แข่งขันระหว่างพวกมันกันเอง และนี่คือตัวอย่างที่สิ่งมีชีวิตต้องมี จะงอยปากที่เอาไว้กระเทาะเมล็ดธัญพืช ฟันที่เอาไว้บดเคี้ยวเนื้อ รากที่สามารถชอนไชลงไปในดิน ทั้งยังช่วยในการหาน้ำและสารอาหาร แม้ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง หรือขนสัตว์ที่คอยปกป้องมัน เมื่อต้องเจอกับความหนาวเย็น แต่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร แล้วแต่ละสปีชีส์นั้นจัดการตัวเองหลังจาก เจอกับสภาพแวดล้อมได้ด้วยวิธีไหน ถึงได้พัฒนามาอยู่ในจุดที่เราเห็นนี้ได้ นี่คือที่มาของสิ่งที่เรากำลังสงสัยกัน นี่คือผีเสื้อกลางคืนลายผงพริกไทย ซึ่งตัวหนึ่งจะมีความสว่าง และลายจุดที่ต่างไปจากเดิม และอีกตัวนั้นมีสีดำสนิท ดังนั้น ยีนส์ของผีเสื้อทั้ง 2 ตัวนี้ จึงมีความแตกต่างกัน นั่นทำให้พวกมันมีเฉดสีแตกต่างกัน ผีเสื้อกลางคืนลายผงพริกไทย มักพบได้ที่ต้นเบิร์ช ที่ซึ่งลำต้นของมันจะเป็นสีอ่อน ด้วยระดับสีที่อ่อนของผีเสื้อกลางคืน ทำให้มองเห็นได้ยาก เมื่อฉากหลังที่มันอยู่มีสีอ่อนเหมือนกัน แต่ในทางกลับกัน ผีเสื้อกลางคืนที่มี เข้มกว่ากลับถูกพบได้ง่ายกว่ามาก นั่นทำให้มันเป็นอันตราย นกมักจะเห็นผีเสื้อสีดำได้ง่าย ทำให้มันตกเป็นอาหารในที่สุด เพราะว่าผีเสื้อกลางคืนสีดำ ถูกพบได้ง่าย นั่นทำให้พวกมันหายากตามไปด้วย ผีเสื้อกลางคืนลายผงพริกไทย ส่วนใหญ่จะมีสีอ่อน หรืออย่างน้อยพวกมันก็เคยเป็นแบบนั้น เนื่องด้วยตอนสิ้นศตวรรษที่ 19 มีสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ คนที่นั่นได้เผาถ่านหินในปริมาณมาก เพื่อให้ความร้อน และทำให้เกิดเขม่าสีดำขึ้นในปล่องไฟ จนทำให้ลำต้นของต้นเบิร์ช กลายเป็นสีที่มืดกว่าเดิม มันส่งผลให้ผีเสื้อกลางคืนถูกพบเห็น ได้ง่ายขึ้นในช่วงเวลานั้น มันจึงถูกนกจับไปกินเป็นอาหารอยู่เรื่อย ผีเสื้อกลางคืนลายผงพริกไทยที่มี ยีนส์สีมืดกว่า จึงกลายเป็นเรื่องปกติที่จะพบได้ทั่วไป ในปัจจุบันนั้นไม่มีการปล่อยเขม่าควัน แบบนั้นออกมาอีกแล้ว นั่นทำให้ลำต้นของต้นเบิร์ชกลับมา มีสีอ่อนลงอีกครั้ง และผีเสื้อกลางคืนลายผงพริกไทยที่มีสีอ่อน ก็จะกลับมาพรางตัวได้ดีกว่าเดิมอีกครั้ง ทุกวันนี้ผีเสื้อกลางคืนที่มีสีอ่อนนั้น ก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไปแล้ว นั่นหมายความว่าสปีชีส์ของพวกมัน ได้เปลี่ยนไปตลอดเวลาที่ผ่านมา เพราะว่าพวกมันแต่ละตัวจะมียีนส์ ที่แสดงลักษณะเด่นเฉพาะตัว ที่ยังคงอยู่รอดและนำไปสู่การสืบพันธุ์ ในขณะที่ผีเสื้อตัวอื่นๆกลับถูกจับกินไป และมันก็เป็นสิ่งเดียวที่เกิดขึ้น กับจะงอยปาก ฟัน ราก รวมไปถึงขนสัตว์นี้ ที่ได้พัฒนาจนนำไปสู่การแก้ไขที่ดี เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เรียกได้ว่าเหมาะสมทั้งถิ่นที่อยู่ ของสัตว์และพืช ในทุกสปีชีส์นั้น จะมีความเฉพาะตัวหลายอย่างเกิดขึ้นมา จนทำให้เกิดการแก้ไขที่ดียิ่งกว่าเดิม เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของมัน และความเฉพาะตัวเหล่านี้ก็ได้สร้าง โอกาสให้พวกมันได้อยู่รอด และสืบพันธุ์เพื่อส่งต่อยีนส์ที่มีต่อไป หน้าที่ของยีนส์ที่มี ต่อลักษณะเฉพาะตัวนั้น คือเพิ่มโอกาสในการอยู่รอดให้มากขึ้น และสามารถขยายพันธุ์ได้ ยีนส์ที่ทำให้โอกาสในการอยู่รอด ลดลงก็จะหายไป เรียกได้ว่าถ้าธรรมชาติคัดเลือก ลักษณะเฉพาะตัวนั้นขึ้นมา มันต้องเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่อยู่ และช่วยให้พวกมันขยายพันธุ์ได้ เราเรียกสิ่งนี้ว่าการคัดเลือกโดยธรรมชาติ การคัดเลือกโดยธรรมชาตินั้นเป็น กระบวนการทางธรามชาติอย่างหนึ่ง ที่สร้างรากฐานให้กับ ความเป็นไปของสปีชีส์ใหม่ๆ รวมถึงสปีชีส์ที่มีอยู่เดิมจะแบ่งออก เป็นสองแบบ หรือจะปล่อยให้ล้มไม่เป็นท่า จนหายไปในที่สุด การพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของ สปีชีส์นั้นเรียกว่า วิวัฒนาการ และการคัดเลือกโดยธรรมชาติ ก็เป็นหัวใจสำคัญของวิวัฒนาการเช่นกัน