ผิวหนัง

โอ้ย!เจ็บนะ บีพ บลิพ บีพ ปิ๊ง! ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันยังไม่ตายหรอกน่า โอ้ย! เจ็บ อ้า โอ้ย ไม่คิดบ้างเหรอว่ารอยสักเนี่ย จะทำให้ฉันดูเท่กว่าเดิมนะ บีพ บลิพ บีพ ปิ๊ง! ผิวหนังของคนเราน่ะ ทั้งนุ่มและอ่อนไหว มีปลายประสาทอยู่ในนั้นเต็มไปหมด เส้นประสาท ทำให้เรารู้สึกได้ เช่น การสัมผัส ต่อให้ถูกสัมผัสเบาๆก็เถอะ นอกจากนี้เรายังรู้สึกได้ถึง อุณหภูมิที่เปลี่ยนไปแม้เพียงเล็กน้อย นี่ หยุดได้แล้ว ผิวหนังนี่เป็นสามารถรับรู้ สิ่งรอบตัวได้อย่างน่าประหลาดเลยนะ ผิวหนังบนร่างกายของผู้ใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 2 ตารางเมตร ผิวหนังนั้นจะทำหน้าที่เหมือนกับ เครื่องรับสัญญาณขนาดใหญ่ ที่คอยรับสัญญาณต่างๆ จากสิ่งรอบตัว ผิวหนังนั้นมีความแข็งแรง และยืดหยุ่นมาก มันสามารถกักของเหลวไว้ภายในได้ นั่นทำให้ร่างกายของเราชุ่มชื้น แต่มันก็อาจปล่อยของเหลวออกมา ในรูปของเหงื่อได้ เมื่อร่างกายต้องการระบายความร้อน ผิวหนังประกอบไปด้วยไขมัน ที่ทำงานเหมือนกับฉนวน และช่วยเรารักษาความอบอุ่นไว้ ผิวหนังยังเป็นด่านที่มีประสิทธิภาพในการ ปกป้องเราจากแบคทีเรีย ไวรัส และสิ่งสกปรกต่างๆ สารต่างๆและสิ่งมีชีวิตส่วนมากจึงไม่อาจ แทรกตัวผ่านผิวหนังเข้าไปได้ ผิวหนังของคนเรานั้นยังเป็นเหมือนกับ โรงงานเล็กๆ เมื่อมีการดึงพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ ผิวหนังก็จะสร้างวิตามินดีขึ้นมา ตามที่ร่างกายต้องการ ถ้าลองมองใกล้ๆ จะเห็นได้ว่าผิวหนังของเราประกอบด้วย 3 ชั้นด้วยกัน ชั้นที่ลึกที่สุด ที่เรียกว่า ชั้นใต้ผิวหนัง (Hyperdermis) หรือชั้นไขมัน (Subcutis) เราจะพบไขมันจำนวนมากในชั้นนี้ ซึ่งช่วยรักษาความอบอุ่น และปกป้องทุกอย่างที่อยู่ในร่างกาย จากแรงกระแทกจากภายนอก ในชั้นใต้ผิวหนัง ก็ยังมีโพรงมากมาย อันเป็นที่กักเก็บน้ำ ไม่ต่างจากไขมัน น้ำในโพรงนี้จะทำหน้าที่เป็น แหล่งน้ำสำรองให้กับร่างกาย เหนือชั้นใต้ผิวหนัง (hypodermis) คือ ชั้นหนังแท้ (dermis) ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ที่ทำให้มันทั้งแข็งแรงและยืดหยุ่น ชั้นหนังแท้นั้นเต็มไปด้วยเส้นเลือด ที่สามารถขยายและหดตัวได้ ด้วยเหตุนี้ มันจึงสามารถความคุมปริมาณของเลือด ที่ไหลเวียนผ่านผิวหนังได้ เมื่อร่างกายต้องการระบายความร้อน เส้นเลือดจะขยายตัว เลือดที่อุ่นอยู่จึงไหลมาที่ผิวหนัง ทำให้มีการระบายความร้อนผ่านทางผิวหนังได้ ในวันที่อากาศเย็น เส้นเลือดก็จะหดตัวแทน เลือดที่อุ่นจึงถูกเก็บเอาไว้ ลึกลงไปในร่างกายของเรามากกว่าเดิม ผิวหนังชั้นหนังแท้นั้นยังประกอบด้วย เส้นประสาทมากมาย ที่ส่วนปลายนั้นไม่รวมกันเป็น กลุ่มปลายประสาทอิสระ ก็เป็น ปลายประสาทที่มีปลอกเฉพาะกิจ หุ้มอยู่ที่เนื้อเยื่อเกี่ยวพันนั้น ปลายประสาทอิสระนั้นจะตอบสนอง ต่ออาการเจ็บปวด ส่วนปลายประสาทที่มีปลอกเฉพาะกิจหุ้มอยู่ ก็ตอบสนองในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องความดัน ความร้อน ความเย็น หรือการสัมผัส ผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis)ยังประกอบ ด้วยรูขุมขน และต่อมมากมายที่ขับเหงื่อและ ไขมันที่ชื่อซีบัมออกมา ไขมันชนิดนี้จะช่วยทำให้ผิวของเรา นุ่มและเรียบเนียน เหนือขึ้นไปอีกชั้นคือ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ซึ่งเป็นผิวหนังชั้นที่บางที่สุด เซลล์ชั้นนอกสุดที่นั่นจะเป็น เซลล์ผิวเก่าและเซลล์ที่ตายแล้ว และมันจะแข็งกว่าเซลล์ที่เพิ่งเกิดใหม่ นั่นคือคอร์เนียม คอร์เนียมนั้นจะคอยป้องกันไม่ให้ สารต่างๆผ่านผิวหนังเข้าไปได้ และมันจะคอยป้องกันไม่ให้ ผิวเสื่อมสภาพหรือฉีกขาด แต่ผิวชั้นนี้ก็สามารถหนาขึ้นได้ เมื่อถูกขัดและถูบ่อยๆ นี่คือสาเหตุที่มือของเราด้าน เมื่อตอนที่เราทำงานหนัก ลองคิดดูสิว่า เนื้อเยื่อขนาด 2 ตารางเมตรที่ ทั้งนุ่มและยืดหยุ่น ที่สามารถรับสัญญาณ เปลี่ยนอุณหภูมิ สร้างวิตามินหลายชนิด รวมทั้งยัง หนาและด้านขึ้นได้เมื่อถูกขัดและถู ช่างเป็นสิ่งที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้ บลิพ บลอพ บลู อัพ นายว่าไงนะ ผิวหนังนี่สามารถจัดการ กับทุกอย่างได้หมดหรือเปล่าน่ะเหรอ ไม่หรอก ระวังแสงแดดด้วยนะ แดดเพียงเล็กน้อย มันดีสำหรับพวกเรานะ แต่ถ้ามากเกินไป ก็จะเป็นอันตรายต่อผิวหนังได้ และมะเร็งผิวหนังก็จะตามมา เสื้อผ้าและครีมกันแดด ช่วยปกป้องเราได้ รวมทั้งร่มเงาด้วย สารเคมีที่เข้มข้น เช่นพวกสีทาบ้าน และตัวทำละลายต่างๆ ก็สามารถซึมผ่านผิวหนังเข้าไปได้ เราถึงต้องสวมชุดป้องกันไว้ไงล่ะ และถ้าเราแต่งหน้า แล้วก็ไม่ยอมล้างมันออกก่อนเข้านอนล่ะก็ เราก็จะมีผื่นขึ้นได้ แต่ว่ามันจะดีกว่ามาก ถ้าผิวหนังของเราไม่โดนล้างบ่อยเกินไปนัก แต่หากได้รับสบู่และน้ำที่มากเกินไป ก็สามารถทำให้ผิวแห้งได้ นี่ไง มันค่อนข้างเรียบร้อยดีแล้วนี่ สวัสดีจ้ะ ทา ด๊า! อุวะ ฮะฮ่า