โรคปอดและปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจ

โอ้ทีรัก เป็นหวัดแล้วใช่ไหมเนี่ย คนส่วนใหญ่มักคิดว่าการเป็นหวัด นั้นเกิดจากอาการหนาว แต่มันก็ไม่ถูกต้องนักหรอก ที่เราเป็นหวัดน่ะก็เพราะว่าเราได้รับ เชื้อไวรัสหวัดเข้าไปในร่างกายน่ะสิ เชื้อไวรัสจะแพร่ออกไป ตอนที่เราจามหรือไอ นั่นทำให้เชื้อถูกแพร่ผ่านสารคัดหลั่ง และกระจายเป็นละอองไปในอากาศ และถ้าเราหายใจเอาละออง ที่มีไวรัสนั้นเข้าไป เราก็อาจจะติดเชื้อเข้าไปได้ เมื่อเราติดเชื้อไวรัสหวัดแล้ว เยื่อเมือกบุผิวก็จะบวม และสร้างน้ำมูกกับเสมหะ ขึ้นมามากกว่าปกติ คนที่เป็นหวัดก็ควรจะพักผ่อนดีที่สุด พูดง่ายๆก็คือถ้าเราพักผ่อนมาก ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย จะอยู่ในสภาวะเหมาะสมที่จะรักษา ตัวเองจากอาการติดเชื้อ บางครั้งโรคหวัดก็อาจนำไปสู่ ภาวะการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ที่เชื่อมไปสู่จมูกและคอ โรคหวัดทั่วไปจะหายได้เอง โดยใช้เวลาราว 1สัปดาห์ แต่อาการติดเชื้อบางอย่างใน ระบบทางเดินหายใจ อาจก่ออันตรายได้หากไม่รีบรักษา 1 ในอาการติดเชื้อที่ว่านั้นก็คือ ต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบนั้นอาจเกิดขึ้นได้ จากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียก็ได้ แบคทีเรียที่ทำให้ต่อมทอนซิลอักเสบ มีชื่อว่าสเตรปโตคอคคัส ถ้าเรามีอาการต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมทอนซิลของเราก็จะติดเชื้อและบวม บางครั้งก็จะมีฝ้าสีขาวเหลือง หรือจุดสีเหลืองขึ้นอยู่ในลำคอ และมักจะมีไข้สูงด้วย ส่วนใหญ่แล้วต่อมทอนซิลอักเสบนั้น สามารถหายไปเองได้ แต่ถ้าเราป่วยมานานและมีจุดในลำคอ เราควรไปหาหมอเพื่อ รับยาปฏิชีวนะมาทาน ถ้าไม่อย่างนั้น ต่อมทอนซิลอักเสบที่เป็น อาจก่อให้เกิดอาการป่วยอื่นที่รุนแรงขึ้น แต่เดี๋ยวก่อนลีน่า เธออาจไม่ได้เป็นต่อมทอนซิลอักเสบก็ได้ โรคปอดบวมเองก็เกิดได้จาก เชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ที่ได้ผ่านการจัดการกับหลอดลม และน้ำมูกที่ปกป้องหลอดลมมาแล้ว กว่าครึ่งของจำนวนผู้ที่เป็นโรคปอดบวม มักเกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรียเป็นต้นเหตุ ชื่อของมันคือนิวโมคอคคัส เมื่อแบคทีเรียผ่านเข้าไปยังปอด มันจะเข้าไปโจมตีถุงลมในนั้น เป็นเหตุให้มีของเหลวเกิดขึ้น และทำให้ถุงลมทำงานได้น้อยลง เราจะไม่สามารถหายใจได้ดี เหมือนอย่างเคย โรคปอดบวมจะทำให้ผู้ป่วยมีไข้สูง มีอาการไอ และเจ็บร้าวในอก นี่เป็นอาการป่วยที่รุนแรง ซึ่งอาจถึงตายได้หากไม่ได้ รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ไม่เอาน่าลีน่า เธอไม่ได้เป็น โรคปอดบวมหรอก น้ำมูกที่อยู่ในหลอดลมและคอของเธอ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการป้องกันร่างกาย ที่มีต่ออนุภาคเล็กๆและ สารที่เป็นอันตรายเท่านั้น แต่บางครั้งสิ่งที่ทำให้เราติดเชื้อ ก็ยังคงถูกจัดการโดยน้ำมูก และละอองเกสรดอกไม้ก็เล็ดลอด เข้าไปในตัวเราผ่านช่องทางนี้ได้ และมันก็ไปกระตุ้นอาการแพ้ต่างๆขึ้นมา นอกจากนี้ คนที่แพ้เกสรดอกไม้ ก็มักจะทรมานจากโรคหอบหืดอยู่ด้วย ถ้าเราเป็นโรคหอบหืด หลอดลมของเราจะอักเสบแบบถาวร บางทีก็อักเสบมากบ้าง หรือน้อยบ้าง แต่การอักเสบดังกล่าวกลับไม่อาจ รักษาให้หายขาดได้ อาการเจ็บป่วยที่รักษาไม่หาย หรือต้องป่วยอยู่อย่างน้อย 3 เดือน จะเรียกว่าโรคเรื้อรัง หอบหืดเองก็เป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หาย และทำให้เราเจ็บป่วยได้ง่าย ยิ่งถ้าต้องสัมผัสกับสิ่งต่างๆเช่น กลิ่นยาสูบ ควันพิษ หรืออากาศที่เย็นและแห้ง เมื่อมีภาวะจับหืดเกิดขึ้น เยื่อเมือกบุผิวก็จะบวมและทำให้กล้ามเนื้อ บริเวณหลอดลมจับกันเป็นก้อน นั่นทำให้อากาศยิ่งผ่านหลอดลม เข้าไปได้ยาก ส่งผลให้เราหายใจลำบาก ยาที่พ่นจากเครื่องพ่นยา เพื่อทำการรักษาโรคหอบหืด สามารถบรรเทาอาการบวมและ ช่วยขยายหลอดลมได้ นี่ไงลีน่า เธอไม่ได้เป็นหอบหืดนี่นา ยกเครื่องพ่นยานี้ให้กับคนที่ จำเป็นต้องใช้มันเถอะ วัณโรค หรือทีบี เป็นอาการป่วยที่เกิดในปอด ที่เกิดจากแบคทีเรียในอากาศ ส่วนใหญ่คนที่ติดเชื้อจาก แบคทีเรียนี้จะไม่ป่วย อาจกล่าวได้ว่าแบคทีเรียนั้นจะแฝงตัว อย่างสงบอยู่ในร่างกาย ตราบใดที่มันยังแฝงตัวอยู่ มันก็จะไม่ก่ออันตรายใดๆ แต่หากวันใดที่อาการของโรค เริ่มแสดงออกมา มันจะอันตรายมาก เราจะมีอาการเจ็บที่หน้าอก และไอเรื้อรังอย่างรุนแรง และเสมหะก็จะมีเลือดปนออกมาด้วย วัณโรคนั้นแพร่ระบาดไปในหลายส่วน ของทวีปแอฟริกาและเอเชีย แต่ไม่ค่อยพบเห็นในทวีปอื่นที่เหลือ ตอนนี้มีวัคซีนที่สามารถ ป้องกันวัณโรคได้แล้ว แต่ถ้าเราป่วยเป็นวัณโรคขึ้นมา เราต้องกินยาหลายขนาน เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน มะเร็งปอดนั้นก็เป็นมะเร็งอย่างหนึ่ง ซึ่งสาเหตุหลักในการเกิดก็คือ การสูบบุหรี่นั่นเอง คนที่เป็นมะเร็งปอดจะไอแห้งๆ หรือเป็นมูกออกมา และบางครั้งก็ไอเป็นเลือด ถ้าเป็นไปได้ เนื้อมะเร็งที่งอกออกมา ที่ปอดก็อาจรักษาได้โดยการผ่าตัดออก รวมทั้งยังสามารถทำเคมีบำบัด ในขั้นตอนต่อไปได้ด้วย การรักษาด้วยการใช้รังสียังคง ถูกนำมาใช้ หากไม่รักษามะเร็งปอด มันอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอ ต้องกังวลหรอกลีน่า เพราะที่เธอเป็นน่ะแค่โรคหวัดเท่านั้นเอง