
AC/DC - ไฟฟ้ากระแสสลับและไฟฟ้ากระแสตรง

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
ปัญหาในการขนส่งกระแสไฟฟ้าแบบกระแสตรงในระยะทางไกลคืออะไร?
ย้อนกลับไปในศตวรรษที่18 เบนจามิน แฟรงคลิน ได้ค้นพบว่าการเกิด ฟ้าแล็ปเป็นประจุไฟฟ้า เขาค้นพบว่ามันประกอบไปด้วย ประจุ ซึ่งนำพลังงาน จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง หลังจากนั้นทอมัส เอดิสัน ได้คิดค้นหลอดไฟ ซึ่งสามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็น แสงสว่างได้ ประจุไฟฟ้า วิ่งจากแหล่งกำเนิดไฟฟ้า ผ่านสายไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าเช่นหลอดไฟ ก่อนจะวิ่งกลับไปยังแหล่งกำเนิด ด้วย พลังงานที่น้อยลง กว่าเดิม นี่คือไฟฟ้ากระแสตรง แต่ว่ามีปัญหาอยู่ เวลาที่เราต้องการส่งไฟฟ้ากระแสตรง ไปเป็นระยะทางไกลๆ เราจะเสียพลังงานเยอะมากระหว่างทาง วิธีหนึ่งที่ช่วยในการป้อง กันการสูญเสียพลังงาน ระหว่างที่มันถูกส่งไปไกลๆ ก็คือการเพิ่มแรงดันไฟฟ้าเข้าไป แต่เทคโนโลยีในสมัยนั้น ไม่สามารถ เพิ่มแรงดันไฟฟ้าเข้าไปใน ไฟฟ้ากระแสตรงได้ เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ซับซ้อน มิหน่ำซ้ำ หากมีฟ้าผ่าลงมา ระบบกระแสตรงทั้งหมด อาจพังไปอย่าง ถาวรเลยก็เป็นได้ เอาเป็นว่า มันแพงเกินกว่าจะสร้าง หรือรักษา เพื่อแก้ปัญหานี้ นักประดิษฐ์อีกสองคน ได้แก่ นิโคลา เทสลา และ จอร์จ เวสติงเฮาส์ จึงเข้ามาช่วย พวกเขามีแนวคิดใหม่ๆ แทนที่จะปล่อยให้กระแสไฟฟ้าวิ่งไป ทางเดียว ทำไม ไม่ทำให้กระแสไฟฟ้า เปลี่ยนทิศอย่างรวดเร็วล่ะ? พวกเขาคิดค้นไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งหมายความว่าประจุจะเปลี่ยนทิศทาง ในการวิ่งอยู่บ่อยๆ เมื่อเทียบกับไฟฟ้ากระแสตรง การเพิ่มแรงดันไฟฟ้าเข้าไปใน ไฟฟ้ากระแสสลับนั้น ง่ายและถูกกว่า เพราะเหตุนี้ คนส่วนใหญ่บนโลก จึงเลือกใช้ ระบบไฟฟ้ากระแสสลับ หรือระบบ AC ทุกวันนี้ การไฟฟ้าแห่งชาติส่วนใหญ่ ใช้ระบบดังกล่าว และเครื่องใช้ไฟฟ้าตามบ้านส่วนใหญ่ก็ ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเบ้าปลั๊กถึง ปล่อยไฟฟ้ากระแสสลับออกมา แต่หลังจากยุคของเทสลาและเวสติงเฮาส์ ก็มีบางอย่างเปลี่ยนไป มีการค้นพบเทคโนโลยีใหม่ๆ ทุกวันนี้ เราใช้แบตเตอรี่มากขึ้น เคยสงสัยไหม ว่าทำไมที่ชาร์จถึง มีกล่องเล็กๆนั่น? มันคืออะแดปเตอร์หรือตัวแปลงไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่เปลี่ยนไฟฟ้ากระแสสลับ จากเบ้าปลั๊กให้เป็น ไฟฟ้ากระแสตรง แบตเตอรี่นั้น ใช้ไฟฟ้ากระแสตรงในการชาร์จ การแปลงไฟฟ้ากระแสสลับและไฟฟ้ากระแสตรง ทำให้เกิดการเสียพลังงาน ที่ชาร์จแบตของเรา จึงร้อน หลังจากชาร์จไปสักพัก แล้วจะแปลงไปทำไม? ทำไมไม่ทำให้ทุกอย่างเป็นกระแสตรงล่ะ? มันไม่ง่ายอย่างนั้นหน่ะสิ เราใช้เวลาเป็นสิบๆปี ในการสร้างระบบAC ที่ครอบคลุมเมืองทั้งเมือง การเปลี่ยนให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรง คงต้อง ใช้เวลานานมาก ดังนั้นจึงมีการสร้าง โรงไฟฟ้าใหม่ๆขึ้น เช่น เขื่อนซานเสียต้าป้า ในจีน ก็ใช้ไฟฟ้ากระแสตรง ในการส่งไฟฟ้า เทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้การส่งไฟฟ้ากระแสตรง ง่ายขึ้น และเสียพลังงานน้อยลง ถึงแม้จะมีระยะทางไกลก็ตาม เทสลาและเวสติงเฮาส์คงไม่ค่อยชอบ การเปลี่ยนแปลงนี้เท่าไหร่ แต่เวลาได้เปลี่ยนทุกๆอย่างไปแล้ว ไฟฟ้ากระแสตรงอาจเป็นหนทางสู่ อนาคต อย่างน้อย แฟรงคลิน และ เอดิสันคง สมหวังในสิ่งที่เขาได้คิดเอาไว้