การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ : ทัศนียภาพทางฟิสิกส์

โอ้ย ร้อนจังเลย ข้างในรถร้อนกว่าข้างนอกซะอีก เคยสงสัยไหมว่าทำไมรถถึงร้อน ได้ขนาดนี้ เวลาที่เราจอดมันทิ้งไว้กลางแดด อืมมม...เคยสิ แสงอาทิตย์เดินทางผ่านหน้าต่างรถ เข้าไปข้างในรถ และโดนเบาะและ แผงหน้าปัดต่างๆ แสงบางส่วนถูกสะท้อนกลับออกไป ในขณะที่พลังงานของแสงบางส่วน ถูกดูดไว้ เบาะและแผงหน้าปัดร้อนขึ้น เช่นเดียวกับอากาศข้างในรถ ซึ่งได้รับความร้อนจากสิ่งต่างๆ ในรถเป็นส่วนใหญ่ เมื่อทุกอย่างในรถร้อน มันก็จะเริ่มปล่อยรังสีความร้อนออกมา แต่รังสีนี้ มีความยาวคลื่น ไม่เท่ากับ แสงอาทิตย์ที่เดินทางเข้ามาในตอนแรก แสงอาทิตย์เดินทางตรงผ่านหน้าต่าง แต่รังสีบางส่วนไม่สามารถผ่านได้ มันจึงถูกสะท้อนและเด้งกลับจากหน้าต่าง ทำให้รถร้อนขึ้นไปอีก อุณหภูมิสูงขึ้น รถก็ร้อนขึ้น นี่คือปรากฏการณ์เรือนกระจก ซึ่งได้ชื่อมาจากเรือนกระจก ที่เอาไว้ปลูกพืชซึ่งโตในเขตอากาศร้อน แต่หากมีพลังงานเข้ามากกว่าออก รถจะไม่ร้อนขึ้นไปเรื่อยๆจนติดไฟหรอ? ไม่สิ รถไล่รังสีความร้อนบางส่วนออกไป และยิ่งร้อนขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งไล่ รังสีออกไปเร็วขึ้นเท่านั้น เมื่อพลังงานเดินทางเข้าและออกจากรถ เท่าๆกัน จะเกิดเป็นสภาพสมดุล ณ จุดๆนี้ รถจะไม่ร้อนขึ้นอีกต่อไป รถร้อนขึ้น แต่ไม่ร้อนพอที่จะติดไฟ รถนั้นคล้ายกับโลกของเรามาก พระอาทิตย์ฉายแสงลงมาที่พื้นโลก และแสงอาทิตย์จำนวนมาก ก็เดินทางผ่านชั้นบรรยากาศและ ให้ความร้อนแก่โลก จากนั้น พื้นโลกก็ปล่อยรังสีความร้อนออกมา และ เช่นเดียวกับรถ รังสีนี้มีความยาวคลื่นไม่เท่ากับ แสงอาทิตย์ที่เข้ามา เช่นเดียวกับหน้าต่างรถ รังสีความร้อนบางส่วนเด้งกลับลงมา จากชั้นบรรยากาศ ปรากฏการณ์เรือนกระจกเกิดขึ้นกับ โลกของเราเช่นกัน โลกร้อนขึ้น ยิ่งโลกร้อนมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งปล่อย พลังงานออกจากพื้นโลกมากขึ้นเท่านั้น และเช่นเดียวกับรถ อุณหภูมิที่ โลกมีภาวะสมดุล ก็คือตอนที่มีพลังงานเข้า และออกจากโลกเท่าๆกัน อุณหภูมินี้ เป็นอุณหภูมิที่ทำให้ มีสิ่งมีชีวิต เกิดและพัฒนาอยู่บนโลก หากไม่มีปรากฏการณ์เรือนกระจก โลก คงจะเย็นกว่านี้เยอะ น่าจะเย็นกว่านี้ประมาณสามสิบ องศาเซลเซียส น่าจะไม่มีสิ่งมีชีวิตบนโลกเลย อืมมม เข้าใจแล้ว ปรากฏการณ์เรือนกระจกนั้นสำคัญต่อ โลกและสิ่งมีชีวิตอย่างมาก แต่มันน่ารำคาญสำหรับรถจังเลย ยังกับนั่งอยู่ในเตาอบ! ใช่ โลกก็มีปัญหานี้เช่นกัน ปรากฏการณ์เรือนกระจกเป็นสิ่งที่สำคัญ และเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่ปรากฏการณ์เรือนกระจกที่มากเกินไปนั้น ไม่ใช่ คนเราได้เปลี่ยนแปลงชั้นบรรยากาศของ โลก รวมถึงความสมดุลของพลังงานที่เข้า และออกจากโลก สภาพสมดุลได้เปลี่ยนไปแล้ว อุณภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น อย่างรวดเร็ว ในหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา มลพิษ ที่ถูกปล่อยออกมาจาก สิ่งต่างๆเช่น โรงงานและรถยนต์ ได้เพิ่มก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์ และไอน้ำในชั้นบรรยากาศ บางครั้งมลพิษเหล่านี้ก็ถูกเรียกว่า ก๊าซเรือนกระจก ยิ่งมีก๊าซเรือนกระจกมาก ก็หมายความว่า มีรังสีความร้อนส่วนน้อยที่สามารถ เดินทางผ่านชั้นบรรยากาศออกไปได้ เมื่อปรากฏการณ์เรือนกระจกร้ายแรงขึ้น โลกก็ยิ่งร้อน นี่คือภาวะโลกร้อน จะเกิดอะไรขึ้นกับคนและสัตว์ในอนาคตนั้น เราไม่สามารถรู้ได้ แต่เรารู้ว่าผลกระทบ อาจร้ายแรงมากหากไม่มีการหยุด ภาวะโลกร้อน ใช่ เราสามารถเปิดหน้าต่างรถได้ แต่เราไม่สามารถเปิดชั้นบรรยากาศของโลกได้ หากจะหยุดภาวะโลกร้อน เราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไปสู่ชั้นบรรยากาศ ใช่แล้ว ฟิลิป สิ่งที่เราเลือกทำในชีวิต มันสำคัญอย่างมาก มันยากที่จะบอกว่าอันไหนถูกอันไหนผิด แต่มันก็สำคัญที่เราคิด ก่อนทำเสมอ