
เรื่องเพิ่มเติมที่ต้องรู้เกี่ยวกับแรง

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
แรงที่พื้นกระทำต่อโต๊ะ ทำให้โต๊ะไม่ตกทะลุพื้นลงไปมีชื่อว่าอะไร?
แรงคือคำที่เราใช้กันทั่วไป ในชีวิตประจำวัน โดยความหมายของมัน กลับไม่ต่างจากพลังงาน แรงกระทำ หรือกำลัง แต่ในทางฟิสิกส์ คำว่าแรงนี้ ก็มีความหมายเฉพาะตัว ที่ทำให้มันไม่เหมือนกับคำว่า พลังงานและกำลัง ในทางฟิสิกส์ แรงคือสิ่งที่ สามารถผลักหรือดึงวัตถุได้ แรงเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่เราสามารถสัมผัสถึงแรงได้ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างวัตถุ ที่มีการกระทำต่อกัน แรงมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยน การเคลื่อนที่หรือรูปร่างของวัตถุได้ด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าแรงนี้ จะสามารถทำแบบนั้นได้เสมอไปนะ แค่มันมีแนวโน้ม จุดมุ่งหมาย และทิศทางที่จะเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ หรือรูปร่างของวัตถุได้แค่นั้น แรง คือสิ่งที่จะผลักหรือดึงวัตถุเอาไว้ นี่คือลังที่ตั้งอยู่บนพื้น แรงโน้มถ่วงนั้นดึงให้ลังลงมาหาพื้น ด้วยขนาดแรง 500 นิวตัน ลูกศรที่ชี้ลงไปด้านล่าง เป็นตัวแทนของแรงโน้มถ่วง แต่ถ้าแรงด้านล่างจากพื้นมีอยู่จริง ทำไมลังมันถึงไม่เข้าไป อยู่ในเนื้อของพื้นเสียล่ะ ก็พื้นก็มีแรงที่ผลักลังอยู่เหมือนกันไง ถ้าเราลองยกลังให้สูงขึ้นจากพื้นเล็กน้อย แล้วเอามือวางเข้าไประหว่าง ลังกับพื้น เราก็จะสัมผัสกับแรงที่ว่านี้ได้ มีแรงด้านบนของลังที่ทิ้งลงมาบนมือเรา แต่แรงจากพื้นก็ส่งผลกับมือของเรา จากทางด้านล่าง เราเรียกมันว่าแรงตั้งฉาก เพราะเราสัมผัสมันได้จากพื้น และแรงตั้งฉากที่ว่านี้ก็คือ แรงที่เกิดขึ้นในแนวตั้งฉากจากพื้น และแรงตั้งฉากนี่เอง ที่ทำให้ลังไม่ลงไปอยู่ในพื้น ตราบใดที่ลังยังคงวางบนพื้นอยู่ ทั้งแรงโน้มถ่วง และแรงตั้งฉากจะยังคงเท่ากัน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรายกลัง ขึ้นมาจากพื้น เราจะไม่มีแรงตั้งฉาก มาช่วยอีกแล้ว และตอนนั้นแหละที่เราต้องออกแรง และเอามันขึ้นมาด้วยแรง ที่มากกว่า 500 นิวตัน ลูกศรของแรงที่ชี้ขึ้นมานี้ แสดงให้เห็นว่าเราจะดึงลังขึ้นมาได้ยังไง แต่แรงยกของเรานั้น มันน้อยเกินไปจึงทำให้ลังไม่ขยับ แต่เมื่อเพื่อนมาช่วยเรายก จึงเกิดแรงยกขึ้นมาสองแรง และลูกศรสองตัวที่ชี้ไป ในทิศทางเดียวกันก็สามารถเอามารวมกันได้ ทีนี้เมื่อแรงยกทั้งสองมารวมกันแล้ว ก็จะมีค่ามากกว่าแรงโน้มถ่วง ที่ดึงลังลงไปหาพื้นข้างล่าง เราจะใช้ความยาวของลูกศรที่ชี้ขึ้นข้างบน มาลบกับความยาวลูกศรที่ชี้ลงไปข้างล่าง จากนั้นเราก็จะได้ ค่าของแรงที่มารวมกัน แรงทั้งหมดจะส่งผล ต่อลังในตอนนี้เอง เมื่อแรงที่ยกขึ้นมีมากกว่า แรงโน้มถ่วงที่ดึงลังลงไป ผลแรงรวมนั้นก็จะพุ่งขึ้นไปด้านบน คราวนี้ลังของเราก็ยกขึ้นได้เสียที ถ้าลูกศรของแรงเกิดชี้ไปทางเดียวกัน เราก็สามารถนำลูกศรพวกนั้น เข้ามารวมกันได้เลย แรงรวมนั้นจะเป็นลูกศรที่ยาวขึ้น แต่ทิศทางของมันจะยังคงเดิม แต่ถ้าลูกศรของแรงนั้นชี้ไป ในทิศตรงข้าม แรงรวมของเรา ก็จะไม่เท่ากับความยาว ที่ชี้ไปของแรง ที่มีขนาดมากที่สุด แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าลูกศรพวกนั้น ได้ชี้ไปคนละทาง? นี่คือเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ที่ถูกลากไปโดยเรือพ่วงสองลำ ซึ่งเรือพ่วงสองลำนี้ก็ ลากมันไปด้วยแรงที่เท่ากัน แต่มุ่งหน้าไปกันคนละทาง แรงที่เกิดขึ้นนั้นสามารถแสดงให้เห็นได้ โดยมีลูกศรชี้ไปแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นแรงรวมที่เกิดขึ้น จากเรือพ่วงทั้งสองจะมีค่าเท่าไหร่ล่ะ คือจริงแล้วมันเป็นอย่างนี้ เราจะเพิ่มลูกศรให้ซ้อนต่อเข้าไป หลังลูกศรตัวอื่นแบบนี้นะ ซึ่งมันไม่ได้สำคัญเลย ว่าเราจะวางลูกศรไว้ตรงไหนบ้าง เพราะผลลัพธ์ก็ยังคงเท่าเดิมนั่นแหละ เรือใหญ่จะถูกลากไป ด้วยแรงตรงจากด้านหน้า แม้ว่าจะไม่มีเรือพ่วงลำใด มาลากมันจากด้านหน้าก็ตาม เมื่อเรายกลัง ลากเรือ หรือดันแก้วผ่านพื้นผิวโต๊ะ ที่เราต้องไปโดนมันเพราะวัตถุนั้น ทำให้เราสัมผัสกับแรงได้ แรงสัมผัสจึงเป็นเรื่องที่คิดได้แบบง่ายๆ ตั้งแต่เราเริ่มหยิบจับของเอง เพราะแรงนี้ก็จะเกิดขึ้นตอนที่วัตถุ หรือตัวเรานั้นเริ่มเคลื่อนไหว แต่ทว่ามันก็ยังมีแรงมีประเภท ที่กระทำต่อวัตถุสองชิ้น โดยที่มันไม่ต้องสัมผัสกับอะไรเลย แรงโน้มถ่วงคือแรงที่ยึดวัตถุทุกชิ้นไว้ เมื่อมันเข้ามาใกล้ๆ โดยไม่ต้องพึ่งการสัมผัสใด ทั้งยังมีแม่เหล็กและประจุไฟฟ้า อันเป็นบ่อเกิดของแรงที่ส่งผล กับวัตถุต่างๆโดยไม่ต้องสัมผัสมันเช่นกัน ซึ่งก็คือแรงที่ไม่เกิดการสัมผัสนั่นเอง