ประชากรศาสตร์ : ความรู้เบื้องต้น

นี่คือซูซาน หน้าที่ของเธอ คือการวางแผนว่า ควรสร้าง อาคารแบบไหนในเมืองที่เธออาศัยอยู่ เธอเป็นนักผังเมือง ซูซานกำลังตรวจสอบผังเมืองอยู่ แต่ว่า เธอควรจะสร้างอะไรล่ะ? ผู้คนในเมืองมีความเห็นต่างกัน เจนนี่ฝันอยากจะอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ท่ีเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาว เมื่อเธอโตพอที่จะอยู่เอง บ้านหลังนั้น ต้องมีห้องซ้อมดนตรี! จอห์นอยากให้มีโรงเรียนเปิดใหม่ ตรงจุดที่ซูซานกำลังตรวจสอบอยู่ ลูกของเขาจะได้ไม่ต้องเดินทาง ไกลในตอนเช้า! ส่วนซีซิเลีย คิดว่าเมืองนี้ขาดแคลน อพาร์ทเมนท์ สำหรับผู้สูงอายุ ควรมีบ้านที่มีลิฟท์และสวน! ไอเดียต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นจริง ได้ทั้งนั้น แต่การวางแผนโครงการก่อสร้าง ใช้เวลานาน อาจต้องใช้เวลาตัดสินใจอีกเป็นปีๆ และกว่าการก่อสร้างจะเสร็จสิ้นอีก กว่าจะถึงตอนนั้น เจนนี่อาจจะโตเป็น ผู้ใหญ่แล้ว ลูกของจอห์นอาจจะเรียนจบ และซีซิเลีย อาจไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ด้วยซ้ำ ในการตัดสินใจ ซูซานต้องศึกษาเกี่ยวกับประชากรให้มาก ขึ้น ไม่ใช่แค่คนที่อาศัยอยู่ในเมืองตอนนี้ แต่รวมถึงคนที่จะอาศัยอยู่ในเมืองใน อนาคตด้วย ซูซานต้องใช้ข้อมูลจากประชากรศาสตร์ มาช่วย คำว่า เดโมกราฟฟี่ ที่แปลว่าประชากรศาสตร์ นั้น มีรากมาจากภาษากรีก เดโม แปลว่าคน และกราโฟ แปลว่า การบรรยาย ประชากรศาสตร์คือ สิ่งที่เราใช้อธิบาย ประชากร และเราต้องใช้ข้อเท็จจริงและตัวเลข ในการทำสิ่งนี้ เราต้องใช้สถิติ! ในประเทศส่วนใหญ่นั้น รัฐบาลจะเก็บข้อมูล เกี่ยวกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในที่นั้นไว้ จำนวนการเกิด.....จำนวนการตาย.... มีคนย้ายเข้าหรือย้ายออกจากประเทศ เท่าไหร่.... ที่อยู่ของประชากร ..... จำนวนคนที่กำลังศึกษา ว่างงาน ทำงาน อาชีพของพวกเขา และอื่นๆอีกมากมาย! ข้อมูลเหล่านี้ ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย ในฐานข้อมูล แต่ว่าการสร้างฐานข้อมูลนั้น ไม่ง่ายเลย สถิติของประเทศที่ยากจนและมีประชากรมาก หรือประเทศที่มีสงคราม มักจะขาดหายไป เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประชากรให้มากขึ้น รัฐบาลอาจทำการสำรวจสำมะโนประชากร ประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศ ที่มีประชากรมากที่สุด ได้ทำการสำรวจสำมะโนประชากรในปี 2010 คนหกล้านคน เดินทางไปตามบ้านต่างๆ และถามคำถามเกี่ยวกับครัวเรือนนั้นๆ มีคนอาศัยอยู่ที่นั่นกี่คน อายุเท่าไหร่ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย และระดับการศึกษาเท่าไหร่? เมื่อการสำรวจสำมะโนประชากรสิ้นสุดลง พวกเขานับ ประชากรทั้งหมดได้ หนึ่งพันสามร้อยเจ็ดสิบล้านคน อ๋อใช่แล้ว! เราต้องช่วยเธอนี่หน่า! ในเมืองที่ซูซานทำงานอยู่ มีการเก็บข้อมูลที่ถูกต้องไว้ในฐานข้อมูล มาเป็นเวลานาน นี่หมายความว่าเรามีความรู้พอสมควร เกี่ยวกับ ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองตอนนี้ รวมถึงเกี่ยวกับคนที่เคยอาศัยอยู่ ที่นี่เมื่อก่อนด้วย ด้วยสถิติเหล่านี้ เราสามารถคาดเดาได้ว่า ใครจะมาอาศัยอยู่ในเมืองนี้ในอนาคต เราทำการพยากรณ์ได้ เวลาที่เราพยากรณ์ เราจะใช้สถิติ เพื่อพยายามหารูปแบบ(แพทเทิร์น)ต่างๆ เราพยายามทำความเข้าใจว่าสิ่งที่ เกิดขึ้นในอดีต อาจส่งผลอย่างไร ต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นี่คือสิ่งที่เราต้องทำในตอนนี้ เรามีสถิติของปีก่อนๆอยู่ในฐานข้อมูล ทุกๆปีมีเด็กเกิดใหม่น้อยลงเรื่อยๆ วัยหนุ่มสาวส่วนใหญ่ย้ายออกจากเมือง หลังจากเรียนจบ แล้วคนเกษียณล่ะ? คนที่อาศัยอยู่ ในเมืองนี้มีอายุยืนมาก คนส่วนใหญ่ที่ย้ายจากที่อื่นเข้ามาใน เมืองนี้ ก็เป็นคนที่เกษียณแล้วเช่นกัน ทีนี้ เราคาดเดาได้แล้วใช่มั้ย? ยังอยู่ใช่มั้ย ซูซาน? มีเด็กเกิดใหม่ไม่มาก แปลว่าไม่มีความต้องการสำหรับโรงเรียน คนหนุ่มสาวย้ายออก แปลว่าบ้านหลังใหญ่สำหรับวัยรุ่น คงไม่ได้ใช้งานอย่างเต็มที่ เรารู้ว่าคนมีอายุยืนยาว... และคนเกษียณยังคงย้ายเข้ามาอยู่ ที่เมืองนี้ต่อไป ซึ่งหมายความว่าจำนวนผู้สูงอายุ จะเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่สัดส่วนของเด็กและคนหนุ่มสาวลดลง เมืองนี้เป็นเมืองที่มีประชากรสูงอายุ ในอนาคต เราต้องการบ้าน ที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้น ซูซานจะวางแผนให้มี อาคารที่มีลิฟท์และสวนมากขึ้น และอาจจะมีสตูดิโอด้วยก็ได้