
คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
โคลัมบัสมุ่งหน้าไปทางทิศใดระหว่างที่เขาเดินทางไปอินเดีย?
โลกนี้มันกลม ชาวยุโรปรู้เรื่องนี้มาใน ตอนสิ้นศตวรรษที่ 15 และอินเดียนั้นก็อยู่ทางตะวันออก ในตอนนั้น ทั้งผ้าและพวกเครื่องเทศ ล้วนถูกส่งมาทางบก จากอินเดียและจีน และมันก็มีราคาแพงจริงๆ ดังนั้นชาวยุโรปจึงพยายามหา เส้นทางทางทะเลไปยังอินเดีย แต่ก็มีบางอย่างที่หายไป จากแผนที่ ทั้งอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้นั้น ยังไม่มีใครค้นพบทั้งสองทวีปนี้เลย หรือบางทีมันอาจถูกค้นพบ โดยพวกไวกิ้งไปแล้วก็ได้ แต่แค่ยังไม่มีใครรู้ก็เท่านั้น คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสได้แนวคิดหนึ่งขึ้นมา เพราะว่าโลกมันกลม เราจึงใช้ทางเส้นนี้ได้ ไปทางตะวันตกไงล่ะ โคลัมบัสมาจากเมืองเจนัวในอิตาลี แต่ทั้งโปรตุเกสและสเปน ก็เป็นชาติที่ทำการเดินเรือ เป็นหลักในตอนนั้น โคลัมบัสจึงเข้าไปพบกษัตริย์แห่งโปรตุเกส พระเจ้าจอห์นที่สอง มันจะใกล้กว่าแน่ถ้าเราไปทางตะวันออก เราจึงเลือกไปทางนั้น โคลัมบัสจึงออกเดินทางไปขอ การสนับสนุนจากราชวงศ์สเปน คือพระเจ้าเฟอร์ดินานและ พระนางอิซาเบลล่า ดังนั้นพระเจ้าจอห์นจึงเดินทาง ไปทางตะวันออก นี่มันน่าสนใจมากทีเดียว ท่านต้องเรียกข้าว่าพลเรือเอก แห่งน่านน้ำมหาสมุทร รวมทั้งกินตำแหน่งเจ้าเมือง ในดินแดนใหม่ทั้งหมด อีกทั้งท่านยังต้องให้ส่วนแบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์ของทุกอย่างให้ข้าด้วย - ไม่มีทาง - คงจะมีโชคอยู่หรอก โคลัมบัสได้รับข้อเสนอ จากราชสำนักฝรั่งเศส และกำลังเดินทางไปที่นั่นตอนที่ เราจะให้ท่านเป็นพลเรือเอกแห่งน่านน้ำ มหาสมุทรก็ได้ ลงมือได้เลย ดังนั้นเขาจึงลงมือทำงานในปี 1492 โคลัมบัสแล่นเรือออกไป พร้อมกับเรือ 3 ลำ เรือซานตา มาเรียนั้น เป็นเรือที่ใหญ่โตที่สุด เขาเวลาในการเดินทาง เพียงแค่ 33 วันเท่านั้น แต่ลูกเรือกลับยังไม่ ปักใจเชื่อเสียทีเดียว ว่าจริงๆแล้วโลกนั้นกลม น้ำในมหาสมุทรพวกนี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครทราบแน่ชัด ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้าบ้าง แผ่นดินยังไงล่ะ - ใช่แล้ว แผ่นดิน - ฮูเร่ แต่ฉันเห็นแผ่นดินที่ว่านั่น มาตั้งแต่สองชั่วโมงก่อนแล้วนะ เชื้อพระวงศ์ชาวสเปนได้สัญญาไว้ว่า จะจ่ายเงินบำนาญตลอดชีวิต ให้กับคนที่เห็นแผ่นดินเป็นคนแรก พวกเขานำเรือเข้าเทียบฝั่งบนเกาะแห่งหนึ่ง โคลัมบัสยังคงเชื่อว่าพวกเขา มาถึงเอเชียแล้ว - เขาเรียกมันว่า - หมู่เกาะเวสต์อินดีส - และเขาก็เรียกคนบนเกาะนี้ว่า - ชาวอินเดียน แต่คนเกาะที่อยู่ที่นี่นั้นก็มีชื่อเรียก อยู่แล้ว นั่นก็คือตาอีโน ชาวตาอีโนจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน โดยมีหัวหน้าหมู่บ้านคอยดูแล ทั้งชายและหญิงต่างก็สามารถ ขึ้นมาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านได้ กฎของชาวตาอิโน่นั้นมีความเฉพาะตัว ที่เกี่ยวพันไปถึงชีวิตในสังคมและศาสนา ทั้งยังมีทักษะงานฝีมือพื้นบ้าน ชาวเกาะที่นี่ใจดีและเป็นมิตร ต่อผู้มาเยือนมาก การเดินทางแรกของโคลัมบัสในครั้งนี้ ทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษ แต่มันจะเปลี่ยนไป การเดินทางของเขา เกิดขึ้นอีก 3 ครั้ง เป้าหมายของการเดินทางครั้ง ที่สองนี้ก็คือทอง ซึ่งขัดกับความปรารถนาของ เชื้อพระวงศ์สเปน ที่อยากให้โคลัมบัสจับพวกทาสกลับมา เขาจับคนกลับมาได้ 1600 คน ที่เป็นชนเผ่าอาราวัก ผู้ซึ่งเป็นมิตรไม่ต่างจากชาวตาอีโนเลย ส่วนใหญ่แล้วพวกชนเผ่าเหล่านี้ต่างก็ถูก จับไปเป็นทาสของคนในรัฐอาณานิคม ในขณะที่ทาสจำนวนสองร้อยคน ได้ถูกนำตัวไปยังสเปน ซึ่งทาสส่วนใหญ่ก็ตายไป ระหว่างการเดินทาง โคลัมบัสได้เขียนไว้ด้วยลายมือของเขาเอง ว่าเขาใช้ทาสพวกนี้บำบัดความใคร่ทางเพศ ในการเดินทางครั้งที่สาม เขาต้องเผชิญหน้า กับโทสะจากบรรดาประชาชนในอาณานิคม เนื่องจากโคลัมบัสเคยสัญญาจะทำให้พวกเขา ร่ำรวย แต่ก็เกิดกบฎขึ้นเพราะเขาผิดคำพูด โคลัมบัสปฏิบัติต่อประชาชนใน รัฐอาณานิคมอย่างโหดร้าย นั่นทำให้องค์กษัตริย์และราชีนีสั่งให้ จับกุมเขาในฐานะทรราชย์ที่กดขี่ผู้คน โคลัมบัสถูกนำตัวกลับมาที่สเปน เพื่อจำตรุไว้ และตำแหน่งเจ้าเมืองก็ถูกเพิกถอนไป แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังได้รับอนุญาตให้ เดินทางได้อีกเป็นครั้งที่สี่ ซึ่งเป้าหมายในครั้งนี้คือการค้นหา ช่องแคบมะละกา อันเป็นเส้นทางไปสู่มหาสมุทรอินเดีย แต่ทุกอย่างก็ล้มเหลวเพราะเขา เดินทางไปผิดทวีป เมื่อโคลัมบัสกลับมาถึงบ้านเกิด เขาก็ต้องการส่วนแบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ราชสำนักได้ปฏิเสธเพราะ ความประพฤติที่ไม่เหมาะสม และเขาก็ไม่ได้เป็นเจ้าเมืองอีกต่อไปแล้ว โคลัมบัสตายไปทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเขาได้ค้นพบทวีปใหม่เข้าแล้ว เขาไม่เอะใจเลยว่า การเดินทางของเขา ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการอพยพ ไปตั้งถิ่นฐานในทวีปอเมริกาเหนือและใต้ เหมือนกับการค้าทาสระหว่าง แอฟริกาและอเมริกานั่นแหละ ทั้งนี้ เขายังไม่ตระหนักถึงความจริง ที่ว่าชาวอินเดียนเหล่านั้น ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคต่างๆ ที่ชาวยุโรปนำพามา เนื่องจากชาวอินเดียนยังไม่มี ระบบภูมิต้านทานต่อโรคพวกนั้น นั่นทำให้ประชากรเชื้อสายตาอีโน ทั้งหมดที่มีสูญสิ้นไปจากโลก