สงครามปฏิวัติอเมริกา

มีสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น ทางตะวันออกของชายฝั่งอเมริกา นี่มันก็เกือบจะ 200 ปีแล้วนับตั้งแต่คนใน ปกครองของอังกฤษกลุ่มแรกย้ายมาที่นี่ เพื่อจะสร้างชีวิตใหม่ ในดินแดนฝั่งนี้ของมหาสมุทรของแอตแลนติก ทว่ามันก็ไม่ง่ายนัก อเมริกานั้นไม่เหมือนบ้านของพวกเขาเลย พืชพรรณที่เติบโตได้ดีที่ดินแดนเดิมนั้น ไม่อาจเจริญงอกงามที่นี่ได้สักอย่าง ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมใหม่นี้ ชาวอาณานิคมพวกนั้นจึงต้องปรับเปลี่ยน และเสาะหาพืชพรรณชนิดใหม่ๆ มาปลูก ความหิวคือสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ กับพวกเขา ทั้งยังต้องคอยสู้รบกับพวกชนพื้นเมือง คือชาวอินเดียน และต้องต่อสู้กับคนในปกครองของฝรั่งเศส แต่สุดท้ายก็ได้ชัยชนะ แต่ถึงพวกเขาจะต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ทว่าตอนนี้อเมริกาก็ได้กลายมาเป็นบ้าน ของพวกเขาแล้ว ตอนนี้รัฐอาณานิคมของอังกฤษที่อยู่ใน อเมริกาก็มีทั้งสิ้น 13 แห่งแล้ว ความขัดแย้งที่พวกเขามีต่อบริเตน ที่เป็นแดนมาตุภูมิก็ยังคงไม่หมดไป และพวกเขาก็เบื่อหน่ายกับการตัดสินใจ ทุกอย่างที่ส่งมาจากกรุงลอนดอนด้วย และเพื่อต่อต้านเรื่องการจ่ายภาษี และภาษีศุลกากร ชาวอาณานิคมพวกนี้ก็ได้ทิ้งชาอันมีค่า ลงไปในอ่าวบอสตันเมื่อไม่นานมานี้ หนึ่งในผู้ต่อต้านที่เข้าร่วมการชุมนุมนี้ ก็คือซามูเอล อดัมส์ และตอนนี้เขาก็กำลังหลบหนีการไล่ลา จากทหารอังกฤษอยู่ เขาเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในเมืองเลกซิงตัน ทหารอังกฤษตามไปที่นั่น แต่กลุ่มผู้ต่อต้านมีอาวุธในมือ การต่อสู้ของสองฝ่ายจึงเกิดขึ้น กองทหารอังกฤษนั้นมีจำนวนมากกว่า และมีอาวุธที่พร้อมกว่ามาก แต่เหมือนพวกเขาจะตั้งตัวไม่ทัน นั่นทำให้อังกฤษแพ้ไปในครั้งนี้ การต่อสู้ครั้งแรกในเลกซิงตัน กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของ สงครามการปฏิวัติอเมริกา มันเป็นสงครามระหว่างอาณาจักรบริเตน และชาวอาณานิคมของพวกเขา แต่ไม่ใช่ชาวอาณานิคมของบริเตน ทั้งหมดจะเห็นด้วยกับการปฏิวัติ มีบางส่วนที่ยังภักดีกับแดนมาตุภูมิ และหันมาช่วยอังกฤษรบ กองทัพจากรัฐอาณานิคมหนึ่ง ภายใต้การนำของผู้บัญชาการ ที่ชื่อ จอร์จ วอชิงตัน เขาเป็นวีรบุรุษในสงครามที่รบกับ คนในปกครองของฝรั่งเศสที่ผ่านมา หลังเสร็จศึก เขาก็กลายเป็นหนึ่งใน เจ้าของไร่ที่ร่ำรวยที่สุดในเวอร์จิเนีย และเป็นนักการเมืองด้วย กองทัพของวอร์ชิงตันประกอบ ไปด้วยทหารรับจ้างที่ยากจน และหลายคนก็เป็นทหารที่ผ่าน สงครามในศึกฝรั่งเศสมาแล้ว ในขณะที่คนอื่นที่เหลือนั้น ก็ไม่เคยออกรบมาก่อนเลย ทว่ากองทัพนี้ได้รับความช่วยเหลือ จากกลุ่มชาวนา ที่มีอาวุธครบมือมาเป็นกองหนุน ฝรั่งเศสนั้นคอยช่วยชาวอาณานิคม ด้วยการส่งอาวุธ กระสุน และระเบิดให้ พวกเขาต้องการแก้แค้นพวกบริเตน ที่เอารัฐอาณานิคมของพวกเขาไป ในสงคราม 7 ปีนั้น ในตอนแรกกองทัพอังกฤษ นั้นทำการรบได้เหนือกว่า ทำให้ทหารของวอร์ชิงตัน ถูกสังหารไปมากมาย แต่ต่อมากองทัพของชาวอาณานิคม กลับเป็นฝ่ายที่รบได้มีสิทธิภาพมากกว่า ในเดือนกรกฎาคม ปี 1776 บรรดาตัวแทนจาก 13 รัฐอาณานิคม ได้มาพบกันที่เมืองฟิลาเดลเฟีย พวกเขาได้สร้างสหอาณานิคมขึ้นที่นั่น ซึ่งต่อมามันได้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นสหรัฐอเมริกา หรือ ยูเอสเอ ในวันที่ 4 กรกฎาคม พวกเขาได้เซ็นเอกสารชิ้นหนึ่ง ที่เป็นการเรียกร้องอิสรภาพ หรือที่เรียกว่า คำประกาศอิสรภาพแห่งสหรัฐ ตอนนี้พวกเขาได้พิจารณาให้สหอาณานิคม นั้นกลายเป็นรัฐเอกราช การต่อสู้ของรัฐอาณานิคม ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งอังกฤษเองก็ยังส่งกองกำลังเสริมมาตลอด และในไม่ช้ากองทัพของพวกเขา ก็มีมากถึง 40,000 คน อังกฤษนั้นถือเป็นผู้มีอิทธิพล ทางทะเลระดับแนวหน้า และครองเมืองต่างๆ ในแถบชายฝั่ง ของอเมริกาไว้ได้ทุกเมือง แต่ในช่วงที่ชาวอาณานิคมถูก ควบคุมอยู่ในพื้นแถบชายฝั่ง พวกเขาก็สามารถซ่อนตัวและขอแบ่ง อาหารมาจากคนท้องถิ่นได้ ด้วยการโจมตีที่ว่องไวอย่างไม่คาดคิด และถอนทัพที่รวดเร็ว นั่นทำให้ชาวอาณานิคมชนะ การต่อสู้อยู่หลายครั้ง พวกเขากำลังทำสงครามแบบกองโจร ในปี 1780 ทั้งฝรั่งเศส สเปน และเนเธอร์แลนด์ต่างก็เข้ามาช่วย ชาวอาณานิคมทำสงคราม ตอนนี้บริเตนนั้นไม่ได้กำลังรบกับ ผู้ต่อต้านในอเมริกาแค่ฝ่ายเดียวแล้ว แต่พวกเขากำลังรบกับยุโรปทั้งหมด นี่มันยากเกินไปสำหรับบริเตนแล้วล่ะ ในปี 1783 พวกเขาก็ถูกกดดันให้ลงนามใน สนธิสัญญาสันติภาพในกรุงปารีส กลุ่มรัฐอาณานิคม หรือ สหรัฐอเมริกา อย่างที่เราเรียกกันทุกวันนี้ ก็เป็นฝ่ายชนะ และทุกวันนี้พวกเขาก็ได้เป็น รัฐเอกราชไปแล้ว