
การปฏิวัติฝรั่งเศส : ไม่มีขนมปังแล้ว อิสรภาพคืนสู่ประชาชน

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
Who were required to pay higher taxes when France was short of money?
อะไรนะ นี่วันๆ เงินค่าจ้างจะได้แต่เศษขนมปัง ไม่กี่ชิ้นกับไวน์แค่ 2 แก้วหรือไง ที่นายไปอยู่ที่ไหนมา อเมริกาหรือไงล่ะ การเพาะปลูกยังไม่ดี นั่นก็แปลว่าเรายังไม่มีแป้งที่จะ เอามาทำขนมปังน่ะสิ อ๋อ อเมริกา ที่ประเทศนั้น ผู้คนอยู่กัน อย่างเป็นอิสระ ใช่ ดูเหมือนทุกคนที่นั่น จะมีสิทธิที่เท่าเทียมกัน ฉันเคยได้ยินมาว่าคนธรรมดา ก็สามารถมีที่ดินเป็นของตัวเอง หรือแม้แต่จะเป็นประธานาธิบดีก็ยังได้ แล้วพวกเขาก็มีปัญญาซื้อ ขนมปังด้วยล่ะ เราจ่ายภาษีซ้ำซ้อน แล้วดูสิว่า เราได้อะไร ไม่ได้อะไรเลย พรรคพวก พอได้แล้ว นี่มันไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว ใช่แล้ว ชาวฝรั่งเศสน่ะทนไม่ไหวอีกแล้ว ประเทศของพวกเขาขาดแคลนเงินมาตลอด พวกเขาตกอยู่ในภาวะสงครามมาหลายปี มิหนำซ้ำยังเป็นฝ่ายแพ้เสียด้วย หลังจากสงคราม 7 ปีที่ทำกับบริเตนจบลง พวกเขาเสียรัฐอาณานิคมในอเมริกาไป และเพื่อเป็นการแก้แค้น พวกเขาจึงช่วยรัฐ อาณานิคมในอเมริกาให้เป็นอิสระจากบริเตน รัฐอาณานิคมพวกนั้นได้ชัยชนะ แต่ฝรั่งเศส ก็ต้องหมดเงินไปมากโข พวกเขาแทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย ประชาชนต่างอดอยาก แต่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระราชินีมารี อองตัวเนตต์ ยังคงจัดการเลี้ยงรื่นเริงใหญ่ๆ ที่ปราสาท ในเมืองแวร์ซายนอกกรุงปารีส พร้อมด้วยเหล่าขุนนางและพวกนักบวช เพื่อเติมเต็มท้องพระคลังนั้น พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 จึงสั่งให้เพิ่ม อัตราการเก็บภาษี แต่ผู้ที่จะจ่ายภาษีพวกนี้กลับไม่ใช่ เหล่าขุนนาง หรือพวกนักบวชแต่อย่างใด แต่เป็นชนชั้นฐานันดรที่สาม ก็คือสามัญชน และชาวนา ซึ่งมีจำนวนเกือบ 98 เปอร์เซ็นต์ของ ประชากรในประเทศ แต่เมื่อไหร่ที่ต้องการเงินจากพวกขุนนาง และศาสนจักร องค์กษัตริย์ก็จะขายที่ดินและ ยศฐาบรรดาศักดิ์ต่างๆ ที่พวกเขาอยากได้ เมื่อพวกขุนนางซื้อที่ดินนั้นไป พวกเขาก็จะไปเก็บภาษีที่ชาวนา ซึ่งทำให้พวกชาวนาโกรธมาก พวกเขาคิดว่าทั้งขุนนางและ ศาสนจักร ต่างก็กำลังช่วยองค์กษัตริย์ กดขี่ข่มเหงพวกเขา และมันก็ยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม เนื่องด้วยชาวฝรั่งเศสนั้นต้องผจญกับ การเพาะปลูกที่ย่ำแย่มาเป็นร้อยปีแล้ว ตอนนี้พวกเขาก็แทบไม่มีอะไรจะกิน แต่องค์กษัตริย์และพวกขุนนาง กลับยังให้ชาวนาและคนธรรมดาสามัญ ต้องจ่ายภาษีให้อีก ความไม่สงบกำลังก่อตัวขึ้นแล้ว ผู้คนทั้งในเมืองและในแถบชนบท ต่างกำลังอดอยาก และพวกขุนนางและนักบวช กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น พวกเขามีเงินพอจะซื้ออาหาร ในขณะที่องค์กษัตริย์ก็อยู่ในแต่ในวังที่ แวร์ซาย เอาแต่จัดงานเลี้ยงและล่าสัตว์ แต่ตอนนี้เขาเริ่มกังวลขึ้นมา แล้วถ้าประชาชนโกรธมากๆ แล้วลุกขึ้นมายึดอำนาจกันล่ะ ในฤดูใบไม้ร่วงครั้งก่อน ตอนที่สามัญชนกำลังเดือดดาล เรื่องภาษีที่สูงลิบลิ่ว เขาจึงเห็นสมควรให้สภาผู้แทน ราษฎรฝรั่งเศส สามารถจัดประชุม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 175 ปี ที่เกิดเหตุเช่นนี้ แต่ตอนนี้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องจัดการประชุมนั้น ประชาชนกลับโกรธหนักกว่าเก่า องค์กษัตริย์นั้นคิดว่าหากเขา ปล่อยให้พวกชนชั้นล่าง เข้ามามีส่วนร่วมและตัดสินใจอะไรนิดหน่อย ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง การประชุมนั้นถูกจัดขึ้น 7 วัน ที่พระราชวังแวร์ซาย พวกฐานันดรที่สาม นั้นมีสมาชิกอยู่มากกว่า ที่จริงมีมากกว่าถึง 2 เท่าเลยทีเดียว ทว่าในแต่ละชนชั้นจะแสดงความคิดได้ แค่ชนชั้นละ 1 เสียงเท่านั้น นั่นแปลว่าถ้าขุนนางและนักบวช มีความคิดเห็นตรงกัน พวกเขาก็จะชนะคะแนนไป 2 ต่อ 1 นี่มันไม่ยุติธรรมเลย พวกฐานันดรที่สามคิด พวกเขาเป็นตัวแทนจากประชาชน ส่วนใหญ่ในประเทศ องค์กษัตริย์นั้นต้องฝืนใจพอควร ที่จะให้พวกฐานันดรที่สาม มีตัวแทนเข้ามาเพิ่มมากกว่านี้ แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอต่อพวกเขา อีกทั้งมีขุนนางและบาทหลวงบางคน ก็ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ พวกฐานันดรที่สาม ต้องการที่จะแยกตัวออกมา และกลายเป็นรัฐสภาของชาวฝรั่งเศส อีกทั้งยังประกาศตนเป็นสภาผู้แทน ราษฎรฝรั่งเศสด้วย และองค์กษัตริย์ก็ปฏิเสธ และปิดห้องประชุมนั้นไป แต่พวกเขากลับย้ายสถานที่ ไปยังสนามเทนนิสในร่มขนาดใหญ่ พวกเขาได้ให้สัตย์สาบานเอาไว้ ว่าจะไม่ล้มเลิกจนกว่าจะทำให้ฝรั่งเศส มีระบอบการปกครองใหม่แบบเท่าเทียมได้ ตอนนี้องค์กษัตริย์ถูกกดดัน แต่เขาก็ยอมถอยแล้ว สุดท้ายชนชั้นทั้งสามก็มารวมกัน ในนามของสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศส ผู้คนต่างพากันยินดี ขอให้องค์กษัตริย์ทรงพระเจริญ แต่ในกรุงปารีส มีข่าวลือว่าทั้งองค์กษัตริย์และพวกขุนนาง แค่เสแสร้งทำเป็นยอมถอยให้เท่านั้น และพวกเขาก็ได้ว่าจ้าง ทหารรับจ้างต่างชาติเอาไว้ เพื่อจะยึดอำนาจคืนมาด้วย