
จากลิงไร้หางสู่การเป็นมนุษย์

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
จริงหรือเท็จ? ที่สมองของมนุษย์ในสปีชี่ส์โฮโมมีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ในยุคก่อน
ดูสิ เขาดูเหมือนเธอจังเลย เอ๊ะ เขาก็ดูเหมือนเธอนะ หรือบางทีอาจจะเป็นญาติกันก็ได้ รู้อะไรไหม ที่เธอสองคนพูดมา ก็ไม่ผิดทั้งคู่ทั้งแหละ ลิงชิมแปนซีเป็นสัตว์ที่เหมือนกับคน มากที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งโลกแล้ว พวกมันเหมือนกับคนอย่างเรามากกว่า ลิงกอริลล่าซะอีก เอ๊ะ แต่ว่าครอบครัวของเรา ไม่มีใครเป็นลิงนะ แล้วคนเรานี่เป็นญาติกับ ลิงที่ไม่มีหางด้วยไหม ก็ต้องเป็นสิ งั้นเรามาย้อนกลับไปที่แอฟริกา เมื่อ 7 ล้านปีที่แล้ว ดูนั่นสิ ในป่านั่นน่ะ นั่นคือลิงไม่มีหางหรือเปล่าน่ะ ใช่แล้วล่ะ แต่พวกมันไม่ใช่ลิงชิมแปนซีนะ สปีชีส์นี้ไม่มีเหลืออยู่แล้วล่ะ พวกมันก็คือบรรพบุรุษรุ่นสุดท้ายของมนุษย์ และชิมแปนซีที่มีร่วมกันนี่แหละ ลิงพวกนี้อาศัยอยู่บนต้นไม้ เพราะต้นไม้เป็นแหล่งอาหาร ทั้งยังสามารถระวังตัวจากพวก ผู้ล่าได้อีกด้วย พวกมันดูไม่ค่อยชอบหน้ากันเท่าไหร่ แล้วก็กำลังสู้กันเพื่อแย่งอาหาร อากาศที่แห้งแล้งกว่าเดิม ทำให้อาหารลดน้อยลง และมีบางตัวก็มุ่งหน้าเข้าไปในป่า ในช่วง 2 ล้านปีต่อมา ลูกหลานของพวกมัน ก็คือลิงชิมแปนซีและลิงโบโนโบ ก็ถือกำเนิดขึ้น ทว่าในทางกลับกัน ลิงไม่มีหางพวกนี้ กลับมุ่งหน้าไปหาพื้นที่แห้งแล้ง ทุ่งหญ้าสะวันนา ในทุ่งหญ้าสะวันนานั้นไม่มีต้นไม้ มากเหมือนกับในป่า ดูสิ ลิงไม่มีหางบางตัวยืนด้วยขาหลัง ของพวกมันได้ด้วย และตัวที่ทำได้ก็จะหาอาหารได้ง่าย และรับรู้ถึงอันตรายได้มากกว่า พวกมันจะมีโอกาสรอดสูงกว่าตัวอื่นๆ วิวัฒนาการนั้นจะเป็นผลดี กับลิงที่สามารถยืนด้วยขาหลัง ของตัวมันเองได้ ลูกหลานของมันนั้นก็จะสืบทอด ความสามารถนี้ต่อไปอีก และค่อยเป็นค่อยไปจากรุ่นสู่รุ่น ลิงไม่มีหางประเภทนี้ก็จะทำได้ดีขึ้น ในเรื่องของการยืนและเดินด้วยขาหลัง จนสุดท้ายพวกมันก็จะกลายเป็น มนุษย์วานรรุ่นแรกๆ อาร์ดิพิเทคัส 2 ล้านปีให้หลัง มนุษย์วานรก็ยังคงปีนต้นไม้ แต่มันสามารถยืนบนและเดินด้วยขาหลัง ของมันได้แล้ว เมื่อมันใช้ขาหลังการเดิน มันก็จะถืออาหาร และอุ้มลูกๆ ของมันได้ง่ายขึ้น แล้วยังสามารถเดินได้ไกลกว่าเดิมมาก ทำให้พวกมันจึงเข้าถึงอาหารที่ หลากหลายได้มากกว่าเดิม การเดินด้วยขาทั้งสองข้างนั้น มีประโยชน์กับมัน เมื่อต้องแข่งขันกับลิงตัวอื่นๆ เมื่อเวลาผ่านไป มนุษย์วานรกลุ่มนี้ ก็เติบโต และออกลูกออกหลานมากมาย พวกมันแพร่พันธุ์ไปทั่วแอฟริกา พวกมันจะต้องเจอกับสภาพแวดล้อม ที่ต่างกัน และค่อยๆ ปรับตัวไปในทิศทางต่างๆ 2 ล้านปีต่อมา ในสถานที่ที่ต่อมาถูกเรียกว่า เอธิโอเปีย เราได้พบกับหญิงสาวผู้นี้ ดิงค์เนช หรือที่ใครๆ พากันเรียกว่าลูซี่ ลักษณะภายนอกของเธอนั้นดูเหมือน กับลิงไม่มีหาง แต่เท้าสองข้างกลับมีการพัฒนารองรับ การเดินลำตัวตั้งตรงได้เป็นอย่างดี เธอควรอยู่ในกลุ่มของมนุษย์วานร ซึ่งเรียกกันว่า ออสทราโลพิเทคัส แต่ไม่ใช่แค่ออสทราโลพิเทคัสเท่านั้น ที่เดินเพ่นพ่านอยู่ในแอฟริกาตะวันออก ในขณะที่ออสทราโลพิเทคัสอาศัยอยู่ ในแอฟริกาตะวันออก ก็ยังมีมนุษย์วานรอีกกลุ่ม ที่เชื่อกันว่ามันสามารถเดินหลังตรงได้ เช่นกัน พวกมันมีฟันที่ใหญ่และ มีขากรรไกรที่แข็งแรงมาก ทั้งยังกินอาหารที่หลากหลาย กว่ามนุษย์วานรชนิดอื่นด้วย ดูเหมือนว่าพวกมันจะสามารถสร้าง และใช้กระดูกเป็นเครื่องมือช่วย ในการหาอาหารด้วยนะ ตัวอย่างเช่น หาปลวกในจอมปลวกนั่นไง นี่คือมนุษย์วานรสกลุพาแรนโทรปัส ในขณะที่พวกพาแรนโทรปัสแหย่ เข้าไปในจอมปลวก มนุษย์วานรอีกกลุ่มก็ปรากฎตัวขึ้น และตอนนี้บางสิ่งก็ได้เกิดขึ้นใน วิวัฒนาการ มนุษย์วานรในกลุ่มนี้ โฮโม มีสมองที่ใหญ่กว่ามนุษย์วานร ในรุ่นก่อนหน้านี้ พวกมันจะเดินหลังตรงเกือบตลอดเวลา และมีการใช้เครื่องมือที่ล้ำสมัย มากกว่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ และนี่ คือแผนภาพครอบครัวของมนุษย์ วิวัฒนาการตลอด 7 ล้านปีที่ผ่านมา จากบรรพบุรุษร่วมกันรุ่นสุดท้าย ที่เชื่อมโยงลิงชิมแปนซีกับมนุษย์ เข้ามาไว้ด้วยกัน จนกลายมาเป็นสปีชีส์ของมนุษย์ ที่เราเป็นอยู่ในทุกวันนี้ โฮโม ในช่วงเวลาที่ยาวนาน มนุษย์วานรหลากหลายสปีชีส์ ยังคงมีชีวิตอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กัน และตอนนี้เราทุกคนก็รู้แล้ว เห็นไหมว่า เธอน่ะมีญาติเป็นลิง