
โรม : ออกัสตัสและสันติภาพโรมัน

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
True or false? Augustus introduced a system of couriers throughout the empire.
อ๋อ สงครามกลางเมือง ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่ มันจะไม่มีวันสิ้นสุดเลยใช่ไหม นี่มันยังไม่ถึงเวลาที่ สันติจะเกิดขึ้นอีกเหรอ ความจริงแล้ว สันติภาพก็ควรเกิดได้แล้วล่ะ สันติภาพโรมัน ความสงบสุขของชาวโรมัน สงครามกลางเมืองระหว่างออคตาเวียนัส กับมาร์ค แอนโทนี่ได้สิ้นสุดลงแล้ว และออคตาเวียนัสก็ได้เป็นผู้ปกครอง เพียงผู้เดียว และเขาได้เปลี่ยนชื่อเป็น ออกัสตัส ซีซาร์ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นจักรพรรดิองค์แรก ระบอบสาธารณะรัฐนั้นสิ้นสุดแล้ว ตอนนี้ ในยุคสมัยของออกัสตัส ความสงบสุขก็เริ่มบังเกิด ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยสันตินั้น ก็เลยถูกเรียกว่าสันติภาพโรมัน สันติภาพโรมันนั้นถือว่าเป็นยุคทอง ของจักรวรรดิโรมัน ซึ่งเป็นยุคที่กินเวลาราว 200 ปี จักรวรรดิโรมันในช่วงเวลา 200 ปีนี้ ได้ทำสงครามและครอบครองดินแดน ของคนกลุ่มใหม่ๆ ทว่าภายในจักรวรรดิเอง กลับมีสันติภาพที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม จำนวนการว่างงานลดน้อยลง สถาปัตยกรรมที่มีความก้าวหน้าถูกสร้างขึ้น มากมาย เหล่าพ่อค้าเองก็แล่นเรือไปในที่ใหม่ๆ ได้ไกลขึ้น โดยไม่ต้องระวังเรื่องสงคราม ดังนั้นการค้าจึงเจริญรุ่งเรืองมาก พวกเขาเดินทางไปไกลถึงอินเดียและจีน มีการใช้เงินแบบเดียวกันภายในจักรวรรดิ และระบบภาษีก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เกี่ยวกับออกัสตัสไหมนะ เขาเหนื่อยหน่ายกับสงครามกลางเมืองที่ ยืดเยื้อ ว่าแต่เขาทำอย่างไรกันล่ะ ออกัสตัสเชื่อว่าการเพิ่มเสถียรภาพ ให้กับจักรวรรดินั้น จะต้องมีผู้ปกครองแค่คนเดียว โดยต้องไม่มีวุฒิสภามาวุ่นวาย แต่เขาก็รอบคอบพอที่จะไม่ ทำผิดซ้ำสองแบบซีซาร์ และการวิวาทกับพวกวุฒิสมาชิก เป็นเหตุให้ซีซาร์ต้องจบชีวิตลง ออกัสตัสยังคงทำเหมือนว่าวุฒิสมาชิก ยังคงมีอำนาจเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ครองตำแหน่งต่างๆ ชั่วชีวิต นั่นแปลว่าอำนาจการตัดสินใจเกือบ ทุกเรื่องยังคงอยู่ในมือเขา แทนที่จะเลือกสมญาว่า'เผด็จการ' อย่างที่ซีซาร์เคยเลือก แต่ออกัสตัสกลับเลือกที่จะเป็นสิ่งที่ หมายถึง 'อันดับหนึ่ง' หรือ 'พลเมืองผู้สำคัญลำดับหนึ่ง' ซึ่งหมายถึงลำดับหนึ่งในวุฒิสภา เขาจัดตำแหน่งนี้ให้ อยู่เหนือกว่าวุฒิสภา แต่ชื่อของมันกลับฟังดูไม่เหมือน พวกชอบออกคำสั่ง หรือเผด็จการเลย ดังนั้นมันก็เลยดูไม่เหมือนว่า เขากำลังคุกคามวุฒิสภาอยู่ ตำแหน่งพลเมืองลำดับหนึ่งยังคงถูก ใช้โดยเหล่าจักรพรรดิหลังยุคของออกัสตัส และยังคงใช้กันต่อไปถึงปีที่ 284 ก่อนคริสต์ศักราช นั่นคือที่มาที่ทำให้มีการเรียก จักรวรรดิโรมันในยุคนั้นว่า ยุค Princepate แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ออกัสตัส ทำเอาไว้คืออะไรกันล่ะ เขาได้ขยายจักรวรรดิได้ไปถึงทะเลสาป ทะเล และภูเขาต่างๆ ซึ่งเป็นปราการธรรมชาติที่ชัดเจน ด้วยเหตุนี้กรุงโรมจึงปกป้อง ชายแดนที่มีได้ง่ายมาก ออกัสตัสยังสร้างระบบไปรษณีย์ขึ้น ดังนั้นประกาศจากทางการ และภาษีอากรจึงถูกส่งไปได้ ทั่วราชอาณาจักร ทั้งนี้ เขายังสร้างจุดพักมากมายไว้ตาม ถนนสายหลักเพื่อให้พลม้าเร็ว- ผู้ส่งสาส์นสามารถพักผ่อนและ เปลี่ยนม้าตัวใหม่ อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งสาส์นชาวโรมันนั้น ก็ยังทำความเร็วได้ไม่มากพอ การเดินทางในระยะ 100 กิโลเมตรนั้น ก็กินเวลาราวหนึ่งวัน และมันต้องใช้เวลาถึง 2 เดือนหากต้องการ ส่งสาส์นจากโรมไปยังอียิปต์ ออกัสตัสได้แต่งตั้งหน่วยองครักษ์คุ้มกัน จักรพรรดิ พวกเขาคือหน่วยองครักษ์พรีโตเรียน หน่วยองครักษ์พรีโตเรียนจะคอยติดตาม จักรพรรดิไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในจักรวรรดิ นอกจากนี้ ออกัสตัสยังจัดตั้ง กองตำรวจขึ้นในโรม ตอนนี้ตามถนนหนทางจึงปลอดภัยขึ้น แต่แน่นอนว่าออกัสตัสไม่ได้ ทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อจักรวรรดิ เท่านั้นนะ เขานึกถึงความปลอดภัยของตนเองด้วย และจักรพรรดิที่ครองโรมันสืบต่อมา ก็นำแนวคิดนี้ไปปฏิบัติตามด้วย พอจะเดากันออกไหมว่าเทพเจ้าองค์ใด ที่คนในโรมสักการะบูชา ก็เทพเจ้าจูเลียส ซีซาร์ไงล่ะ ออกัสตัสได้สถาปนาพ่อบุญธรรมของเขาเอง ให้เป็นเทพเจ้า เนื่องจากว่า'พ่อ'-จูเลียส- นั้นเป็นเทพเจ้า ตัวของออกัสตัสเองจึงได้สถานะว่าเป็น 'มนุษย์กึ่งเทพเจ้า'ในชีวิตที่เหลือของเขา เขาฉลาดใช่ไหมล่ะ ใครบ้างจะกล้าคัดค้านการตัดสินใจ ของมนุษย์กึ่งเทพเจ้า และสุดท้าย เมื่อออกัสตัสลาโลกไป วุฒิสภาก็ได้สถาปนาเขา ให้เป็นเทพเจ้าตัวจริงที่ชาวโรมัน สามารถบูชาได้ หลังยุคของออกัสตัสสิ้นสุดลง ความเป็น จักรพรรดิก็ถูกส่งต่อไปยังทายาทของเขา นั่นคือราชวงศ์ยูลิอุสและเกลาดิอุส ซึ่งเราจะได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับ พวกเขาได้ในวิดีโอต่อไป