
โอโซน

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
โมเลกุลใดที่ช่วยปกป้องเราจากอันตรายของรังสียูวี?
แสงแดดนี่ทำให้รู้สึกดีชะมัด จะให้ฉันนอนอยู่ตรงนี้ทั้งวันยังได้เลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรจำไว้ด้วยว่าการตาก แดดนานๆก็เป็นอันตรายได้เหมือนกัน ยิ่งตอนที่ดวงอาทิตย์ขึ้นไป อยู่ในจุดสูงสุดของวันน่ะ เพราะว่ามันจะร้อนเกินไปใช่ไหม ไม่เลย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น มันแย่กว่านั้นอีก ลำแสงจากดวงอาทิตย์นั้นมีพลังงาน มากล้นเหลือ แล้วก็ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปของ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รังสีหรือคลื่นบางตัวนั้นสามารถ ผ่านชั้นบรรยากาศโลกเข้ามาได้เลย เช่น แสงขาว และพวกคลื่นความร้อนต่างๆ แต่รังสีชนิดอื่นที่เป็นอันตรายกับเรา จะถูกอากาศกรองเอาไว้ให้ อย่างเช่นรังสีแกมมาและรังเอ็กซ์ ซึ่งนั่นก็ถือว่าเรายังโชคดีอยู่ แต่มันก็มีรังสีอยู่ตัวหนึ่ง ที่สามารถเดินทางผ่านอากาศเข้ามาได้ ทั้งยังส่งผลร้ายต่อมนุษย์เราด้วย และรังสีนั้นก็คือ รังสีอัลตราไวโอเลตนั่นเอง ถ้าเราได้รับรังสียูวีตัวนี้มากเกินไป ไม่ใช่แค่คนผิวบางเท่านั้นที่ จะเป็นอันตราย แต่มันยังสามารถทำลายดีเอ็นเอ และทำให้เรามีแนวโน้มที่จะ เป็นมะเร็งผิวหนังด้วย แล้วนั่นคืออะไรน่ะ ใช่นกไหม หรือว่าเป็นเครื่องบิน ผิดแล้ว นี่คือโมเลกุลของโอโซนต่างหาก โอโซนก็คือ รูปหนึ่งของธาตุออกซิเจน โอโซนนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้รังสียูวี ผ่านเข้ามายังโลกได้ ในโมเลกุลของโอโซนจะประกอบไปด้วย อะตอมของออกซิเจน 3 อะตอม เมื่อใดที่โอโซนเกิดปะทะเข้ากับรังสียูวี พวกมันก็จะแตกออกเป็น 2 ส่วน คือโมเลกุลของออกซิเจนและ ออกซิเจนที่มีอะตอมเดียว ออกซิเจนที่มีเพียงอะตอมเดียวนั้น ไม่ชอบที่จะอยู่โดดเดี่ยวเท่าไหร่ หลังจากนั้นไม่นาน มันจึงพาตัวเอง กลับไปอยู่กับโมเลกุลของออกซิเจนอีกครั้ง และทำให้เกิดโอโซนขึ้นมาใหม่ ดังนั้นปริมาณของโอโซนจึงไม่ได้ เพิ่มขึ้นหรือลดจำนวนลงไปจากเดิม แล้วรังสียูวีนี้มันไปอยู่ที่ไหนต่อล่ะ พลังงานที่อยู่ภายในรังสียูวี จะถูกใช้ไปในการทำให้โมเลกุล ของโอโซนแตกตัวออกมา รังสียูวีจึงถูกโอโซนหยุดยั้งเอาไว้ ไม่ให้เข้ามาสู่โลก โอโซนจึงคอยปกป้องโลกของเราจากรังสียูวี มาเป็นเวลานานกว่า 500 ล้านปีแล้ว แต่ราวๆ 50 ปีที่แล้ว มีความผิดพลาดร้ายแรงเกิดขึ้นมากมาย นี่คือตู้เย็นที่ให้ประสิทธิภาพสูง ที่มาพร้อมกับสารคุณภาพดีที่ชื่อว่าฟรีออน ข้อดีที่ยอดเยี่ยมของสารชนิดนี้ คือมันไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งไม่ทำปฏิกิริยากับสิ่งใดเลย แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อมีฟรีออน รั่วไหลออกไปสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งมันได้เข้าไปทำลายโอโซนในนั้น และกว่าเราทุกคนจะรู้เรื่องนี้ เวลาก็ผ่านไปนานหลายปี เมื่อโอโซนถูกทำลายไป รังสียูวีก็ยิ่งเข้ามา สู่โลกมากขึ้นเรื่อยๆ และนั่นก็ไม่ดีเอาเสียเลย นอกจากผิวหนังของเราจะถูกทำลาย และมี ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังแล้ว มันยังส่งผลต่อพวกพืช เหมือนกับที่ มันส่งผลต่อแพลงก์ตอนในทะเลด้วย แต่ถ้าโอโซนนั้นถูกทำลายไป เพราะสารเคมีที่มนุษย์ปล่อยออกมา เราจะไม่สร้างโอโซนเพิ่มขึ้นมา เพื่อทดแทนโอโซนที่ถูกฟรีออน ทำลายไปหน่อยเหรอ มีโอโซนจำนวนมากถูกปล่อยออกมาจาก ท่อไอเสียรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรม แต่มันก็ไม่ดีอีกนั่นแหละ เพราะเท่ากับว่าเราหายใจ เอาสารพิษเข้าไป ดังนั้นเราจึงอยากให้ทุกที่ที่เอ่ยถึง กลายเป็นแหล่งโอโซนขนาดใหญ่ เพื่อมันจะได้กลับมาปกป้องเรา จากรังสียูวีอีกครั้ง แต่เราไม่ได้อยากให้มัน อยู่ติดพื้นดินหรอก เพราะมันจะทำให้เราหายใจลำบาก สารฟรีออนกลายเป็นสิ่งต้องห้าม ไปแล้วในปัจจุบันนี้ แต่พวกมันก็ยังคงอยู่ในชั้นบรรยากาศโลก และทำลายโมเลกุลของโอโซนต่อไปอีกหลายปี นี่ถือว่าเป็นโชคร้าย ที่เราต้องอยู่ท่ามกลางการคุกคาม ของรังสียูวีที่มีอยู่เยอะแยะไปหมด ซึ่งก็ไม่ต่างจากไมเคิลและเจนนี่ ที่ชายหาดหรอก โชคยังดีที่พวกเราพกครีมกันแดดมาด้วย ก็เลยนอนอาบแดดได้นานขึ้นอีกนิดหนึ่ง