โภชนาการและอาหาร I
คาร์โบไฮเดรดในอาหาร
น้ำตาลชั้นเดียว
น้ำตาลหลายชั้น
โปรตีนในอาหาร
โปรตีนถูกสร้างขึ้นโดยกรดอะมิโน
ไขมันในอาหาร
วิตามิน
แร่ธาตุ
คาร์โบไฮเดรดในอาหาร
จริงหรือเท็จ? เพราะเซลล์ในร่างกายของเราต้องการกลูโคสเพื่อนำไปผลิตพลังงาน เราจึงต้องกินกลูโคสในปริมาณมากตามไปด้วย
อูย , ฉันหมดแรงแล้ว ตอนนี้ต้องเติมพลังสักหน่อย ขอเป็นน้ำตาล หรืออย่างอื่นก็ได้ เอาเป็นผักไม่ดีเหรอ ! ดูกระต่ายของฉันสิว่ามันแรงเยอะแค่ไหน ฉันต้องการพลังงานที่เอาไปใช้ได้เลย ไม่ใช่หญ้าเหนียวๆแบบนี้ แล้วฉันก็ต้องการโปรตีนเพื่อ เสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วย แล้วบางทีฉันอาจจะเอาเจ้าสัตว์ มีขนพวกนี้ของนายเข้าไปสักตัวก็ได้ นี่ พวกเธอ ต้องทะเลาะกันประจำเลยรึไง? แต่เหมือนจะเป็นเรื่องคาร์โบไฮเดรด และพลังงาน ที่ไม่น่าจะเข้าใจยากเลยนะ เราต้องการพลังงานเพื่อรักษาระดับความร้อน เคลื่อนไหวกล้ามเนื้อในร่างกาย และทำให้สมองทำงานต่อได้ เหมือนกับรถยนต์ที่ต้องเติมน้ำมัน แต่ร่างกายต้องการอาหาร ไม่ใช่น้ำมัน เราได้พลังงานจากไขมัน จากโปรตีน และ จาก คาร์โบไฮเดรด ส่วนใหญ่แล้วพลังงานที่เราได้นั้น มาจากคาร์โบไฮเดรด ซึ่งคาร์โบไฮเดรดก็มีหลายประเภท และทุกประเภทก็ประกอบไปด้วยธาตุ 3 ชนิด คาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน ในจุดนี้ เรามีคาร์โบไฮเดรดนิดเดียว ที่มีแค่คาร์บอนอยู่ 6 อะตอม ซึ่งมันก็เป็นน้ำตาลประเภทหนึ่ง และตรงนี้ก็คือน้ำตาลที่มีชื่อว่ากลูโคส กลูโคสนั้นจะเป็นได้ทั้งแบบกลมอย่างนี้ แต่ก็สามารถยืดออกมาเป็นตรงๆแบบนี้ได้ กลูโคสนั้นมีอยู่ในพืชทุกชนิด โดยเฉพาะในผลไม้รสหวาน อย่างเช่น กีวีและกล้วย และในร่างกายมนุษย์ก็มีกลูโคสเช่นกัน โมเลกุลของกลูโคสนั้นเป็น เหมือนกลุ่มพลังงานเล็กๆ ที่ทำให้หัวใจและกล้ามเนื้อทำงานได้ แต่เราต้องทานกลูโคสในปริมาณมากๆ เพื่อรับพลังงานจากมันด้วยหรือเปล่านะ ไม่เลย เพราะความพิเศษคือ มนุษย์เราก็สามารถสร้างกลูโคสเองได้ โดยอาศัยคาร์โบไฮเดรดชนิดอื่นๆ มีคาร์โบไฮเดรดอยู่มากมายหลายชนิด และเราสามารถแบ่งมันได้เป็น 3 กลุ่ม โดยใช้ความยาวของโมเลกุลเป็นเกณฑ์ โมเลกุลที่สั้นที่สุดนั้นเรียกว่า น้ำตาล ซึ่งส่วนมากจะพบในผลไม้ โมเลกุลที่ยาวขึ้นมาอีกหน่อย เรียกว่า สตาร์ช ซึ่งเราจะพบสตาร์ชนี้ได้ ในข้าวสาลี มันฝรั่ง และกล้วยดิบ ยังมีคาร์โบไฮเดรดสายยาวอีกชนิด ที่เรียกว่า เซลลูโลส เซลลูโลสนั้นจะอยู่ในพืชทุกชนิด มันจะคอยทำหน้าที่เสริมสร้าง โครงสร้างให้กับพืชเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น มีเซลลูโลสจำนวนมาก อยู่ในเปลือกถั่ว เปลือกกล้วย และหญ้า แต่ว่ามันกลับมีปัญหาหนึ่งคือ เซลล์เล็กๆในร่างกายของเรา ไม่สามารถนำคาร์โบไฮเดรดพวกนี้มาใช้ได้ เซลล์ของเราต้องการคาร์โบไฮเดรด สายสั้นที่สุดก็คือน้ำตาลกลูโคส ฉะนั้น เราต้องทำคาร์โบไฮเดรด ที่ยาวให้มีขนาดสั้นลง กระบวนการนี้เริ่มต้นขึ้นที่ปาก เมื่อเราเคี้ยวมัน เอนไซม์ในน้ำลาย จะย่อยโมเลกุลสายยาว ของคาร์โบไฮเดรดนั้นได้ ในกระเพาะอาหารเองก็มีเอนไซม์ที่มี ความเป็นกรดสูงมารับช่วงต่อ แต่ว่า โมเลกุลของคาร์โบไฮเดรดที่แตกตัวออกมา จะถูกส่งต่อไปที่ลำไส้เล็ก โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ คาร์โบไฮเดรดกลายเป็นกลูโคส ซึ่งจะถูกส่งผ่านกระแสเลือดต่อไป คาร์โบไฮเดรดที่มีสายที่สั้นกว่า เช่น น้ำตาลทั่วๆไป จะถูกย่อยได้อย่างรวดเร็ว ส่วนคาร์โบไฮเดรดที่ยาวขึ้นมาอีกหน่อย อย่างพวกสตาร์ช จะใช้เวลาย่อยนานกว่า แต่โมเลกุลสายยาวอย่างเซลลูโลสนั้น มีสายโมเลกุลที่เรียงตัวกันอย่างแข็งแรง และนั่นก็ทำให้ยากต่อการที่จะ ทำให้มันขาดออกจากกันด้วย แต่วัว กระต่าย และสัตว์ชนิดอื่นๆ สามารถย่อยเซลลูโลสได้ในกระเพาะของพวกมัน แม้ว่ามนุษย์จะย่อยมันไม่ได้แต่เซลลูโลส ก็มีประโยชน์ต่อมนุษย์ เซลลูโลสในอาหารนั้นถูกเรียกว่า ใยอาหาร หรือจะเรียกว่าเส้นใยก็ได้ เส้นใยนี้จะทำให้สำไส้ทำงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ มันช่วยให้เรารู้สึกอิ่มและสบายท้อง ทว่าเส้นใยนี้แทบจะไม่ให้พลังงานใดๆเลย และถ้าเจนนี่ต้องการใช้พลังงานตอนนั้น เธอก็ต้องกินของที่มีรสหวาน ที่จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสได้ทันที เพื่อที่พลังงานนั้นจะได้ส่งไป เลี้ยงสมองและกล้ามเนื้อต่างๆ เช่น เธออาจกินกล้วยหรือแอปเปิ้ลสักลูก พวกกระต่ายก็จะได้กินหญ้าอย่างเสรีต่อไป