โภชนาการและอาหาร I
คาร์โบไฮเดรดในอาหาร
น้ำตาลชั้นเดียว
น้ำตาลหลายชั้น
โปรตีนในอาหาร
โปรตีนถูกสร้างขึ้นโดยกรดอะมิโน
ไขมันในอาหาร
วิตามิน
แร่ธาตุ
น้ำตาลชั้นเดียว
น้ำตาลชนิดใดคือกลูโคส?
สุดยอดเลย เป็นแอปเปิลที่ หวานและอร่อยอะไรแบบนี้ โอ้ นี่ฉันรู้สึกถึงพลังงานที่ไหล ผ่านเข้าไปในตัวได้เลยนะเนี่ย ใช่แล้ว ในแอปเปิลน่ะมีกลูโคส ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานให้กับร่างกาย ก็เหมือนกับน้ำมันที่ทำให้รถแล่นได้ หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ไฟฟ้านั่นแหละ เมื่อเจนนี่กินแอปเปิล กระเพาะและสำไส้ของเธอก็สามารถ จัดการกับกลูโคส และส่งมันไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกายได้ กลูโคสน่ะไม่ใช่มีอยู่แค่ ในแอปเปิลเท่านั้น แต่สิ่งที่พบว่ามีปริมาณกลูโคสอยู่สูงมาก ก็คือผลไม้รสหวาน พวกเบอร์รี่ต่างๆ รวมทั้งองุ่นด้วย กลูโคสจัดเป็นน้ำตาลเชิงเดี่ยว ซึ่งต่างจากน้ำตาลเชิงซ้อน อย่างไดแซ็กคาไรด์อย่างสิ้นเชิง น้ำตาลโมเลกุลคู่นั้นเป็นการรวมตัวกัน ของน้ำตาลที่มากกว่า 1 ชนิด ซึ่งเราจะเรียกน้ำตาลเชิงเดี่ยว ว่าโมโนแซ็กคาไรด์ก็ได้ คำว่าโมโนแปลว่า 1 และคำว่าแซ็กคาไรด์ที่มาจากภาษากรีก ก็แปลว่าน้ำตาล มีน้ำตาลเชิงเดี่ยวอยู่มากมายหลายชนิด และฟรุกโทสก็เป็นหนึ่งใน น้ำตาลเชิงเดี่ยวที่พบได้ในพืช หรือกาแลคโทสที่จะพบได้ในนม น้ำตาลเชิงเดี่ยวทั้ง 3 ตัวนี้จะมีอะตอม ของคาร์บอนอยู่ 6 โมเลกุลด้วยกัน แต่สิ่งที่แปลกก็คือน้ำตาลทั้งสามตัวนี้ มีสูตรเคมีตัวเดียวกันทั้งหมด คือ C 6 H 12 O 6 และสิ่งที่ทำให้พวกมันต่างกันก็คือ การจัดเรียงตัวกันของโมเลกุล การจัดเรียงโมเลกุลของฟรุกโทส จะเป็นรูปห้าเหลี่ยม ในขณะที่กลูโคสจะเป็นรูปหกเหลี่ยม ทั้งนี้ การจัดเรียงโมเลกุลของกาแลคโทส ก็เป็นรูปหกเหลี่ยมเช่นกัน แต่อะตอมบางตัวของมันกลับยึดกันไว้ ในรูปแบบที่ต่างออกไป จากน้ำตาลทั้ง 3 ตัวที่กล่าวไป ฟรุกโทสจะมีรสหวานที่สุด และเป็นตัวที่ร่างกายจะ ดูดซึมไปใช้ได้เร็วที่สุด กลูโคสเองก็มีรสหวาน และร่างกาย ก็สามารถดูดซึมไปใช้ได้เร็วด้วย แต่กาแลคโทสกลับไม่ได้มีรสหวานแบบนั้น มันจะจับคู่กับกลูโคสเพื่อสร้าง น้ำตาลโมเลกุลคู่อย่างแลคโทส ที่จะพบได้ในนม และนี่คือคำอธิบายของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว นั่นคือพวกมันมีอะตอมของคาร์บอนอยู่ 6 ตัว แต่ก็มีน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่มีอะตอมของ คาร์บอนอยู่ 3 ตัว หรืออาจเป็น 4 ตัว หรือ 5 หรืออาจเป็น 7 ตัวก็ได้ มีน้ำตาลหลายตัวที่มีบทบาทต่อกระบวนการ สร้างและสลายพลังงานของพืชและสัตว์ แต่น้ำตาลพวกนั้นก็ไม่ใช่น้ำตาล ที่จะพบได้ทั่วไปแบบกลูโคส ฟรุกโทส และกาแลคโทส มาสรุปกันดีกว่า น้ำตาลเชิงเดี่ยวจะมีอะตอม ของคาร์บอนอยู่ที่ 3 ถึง 7 โมเลกุล น้ำตาลเชิงเดี่ยวที่พบได้มากที่สุด ก็คือกลูโคส ฟรุกโทส และกาแลคโทส น้ำตาลเชิงเดี่ยวจะให้พลังงาน กับร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และถ้าเราได้รับมันในปริมาณที่มากเกินไป ร่างกายก็จะเก็บพลังงานที่ เกินมานี้ในรูปของไขมัน อะไรเนี่ย ฉันไม่เห็นเคยได้ยิน อะไรแบบนี้มาก่อนเลย ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เธอยังคง กินผลไม้ได้ตามปกตินะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีต่อสุขภาพนัก ถ้าจะกินน้ำอัดลม เค้ก แล้วก็พวกของหวานน่ะ ร่างกายจะทำงานได้เต็มที่ เมื่อมันได้รับพลังงานที่คงที่น่ะ ดังนั้น เราจึงควรกินอาหาร ที่ต้องใช้เวลาย่อยก่อนที่มันจะถูก เปลี่ยนให้เป็นกลูโคสน่ะ แต่แอปเปิลลูกนี้มีน้ำตาล ที่ดูดซึมได้เร็วมากอยู่นะ ใช่แล้ว แต่มันมีอยู่แค่ 10 กรัมไง ดูอย่างน้ำอัดลม 1 แก้ว ที่โดยปกติแล้วจะมีปริมาณน้ำตาล อยู่มากกว่าเป็น 2 เท่านะ แล้วน้ำตาลที่อยู่ในแอปเปิ้ล ก็มีใยอาหารอยู่ด้วย นานอยู่เหมือนกันนะกว่าที่ร่างกาย จะดูดซึมมันแล้วเอาไปใช้ได้น่ะ ซึ่งต่างจากน้ำตาลที่อยู่ใน น้ำอัดลมกับเค้ก ที่จะเข้าไปสู่เส้นเลือดของเราได้เร็วกว่า ทีนี้ก็กลายเป็นว่าเราจะหิวหนักขึ้น เพราะต้องรีบใช้พลังงานไง แล้วดูเหมือนว่ามันจะมากกว่าที่ ร่างกายต้องการเสียอีก อื้อหือ อธิบายได้เจ๋งไปเลย