อับราฮัม

นี่คืออับราฮัม เขามาจากเมืองอูร์ ที่อยู่ในเมโสโปเตเมีย แต่เขาได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองฮาราน กับบิดาของเขา รวมทั้งซาราห์ผู้เป็นภรรยา และญาติๆ อีกหลายคน คนที่นี่เชื่อในเทพเจ้าหลายๆองค์ พวกเขาเป็นพวก"พหุเทวนิยม" บิดาของอับราฮัมยังชีพด้วยการขาย รูปปั้นของเหล่าเทพเจ้า แต่มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับอับราฮัม เขาเริ่มเชื่อว่ามีพระเจ้า แค่เพียงองค์เดียวเท่านั้น ซึ่งแบบนี้เรียกกันว่า การเป็นเอกเทวนิยม อับราฮัมพยายามสอนให้คนอื่นๆ นับถือพระเจ้าองค์เดียว แต่คนที่รับฟังเขามีไม่มากนัก วันหนึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้พูดกับเขา พระองค์บอกให้อับราฮัมออกไปจากฮาราน อับราฮัมและซาราห์จะกลายเป็น บรรพบุรุษของกลุ่มชนที่ยิ่งใหญ่ และพวกเขาจะมีแผ่นดิน เป็นของตัวเองคือดินแดนคานาอัน อับราฮัมและครอบครัว จึงเดินทางไปที่นั่น พระเจ้าได้พูดกับเขาอีกครั้ง "ลูกหลานของเจ้าจะได้แผ่นดินนี้" แล้วทำไมเขาถึงไม่ได้มันมาเลยล่ะ? เพราะมีคนอยู่ที่นี่อยู่แล้ว นั่นคือชาวคานาอัน และใครคือลูกหลานที่พระเจ้า กำลังพูดถึงอยู่? อับราฮัมและซาราห์เองก็แก่แล้ว ซาร่าห์ไม่อาจตั้งท้องได้อีกต่อไป อับราฮัมโกรธเคืองพระเจ้า "พระองค์ไม่ได้ทำให้ข้ามีลูกอย่างที่ พระองค์ทรงตรัสไว้นี่นา" เขาบ่น "เจ้าจงมองดูดวงดาวบนท้องฟ้าสิ" พระเจ้าตรัส "เจ้าจะมีลูกหลานเท่ากับดวงดาวพวกนั้น" อับราฮัมรู้สึกว่ามันยากที่จะเชื่อ แต่ซาร่าห์กลับคิดบางอย่างได้ ถ้าเธอไม่อาจตั้งครรภ์ได้ด้วยตนเอง บางทีอับราฮัมก็อาจมีลูกกับ ทาสสาวของเธอที่ชื่อฮาการ์ได้ เนื่องจากลูกของทาส จะตกเป็นของเจ้าของทาส ถ้าฮาการ์ให้กำเนิดลูก เด็กคนนั้น ก็จะกลายเป็นลูกของซาราห์ อับราฮัมยอมมีลูกกับฮาการ์ และพวกเขา ก็ได้ลูกชายมา 1 คนคืออิชมาเอล ตอนนี้ซาราห์รู้สึกเศร้าใจ และโกรธเล็กน้อย เธออยากมีลูกของตัวเอง แม้ว่าเธอจะอายุ 90 แล้ว แต่ดูสิว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ซาราห์ก็มีลูกด้วยเช่นกัน เขาคืออิสอัค ดังนั้น ตอนนี้อับราฮัม ก็มีลูกชาย 2 คน คืออิชมาเอลที่เกิดจากฮาการ์ และอิสอัคที่เกิดจากซาราห์ ซาร่าห์คิดว่าฮาการ์ทะนงตนไป เพราะมีลูกกับอับราฮัม เธอจึงอยากไล่ฮาการ์ และอิชมาเอลไปให้พ้น สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มีคำอธิบายที่ต่างกัน ออกไป ขึ้นอยู่กับว่าอ่านจากคัมภีร์ไบเบิล หรือคัมภีร์อัลกุรอาน ตามพระคัมภีร์ไบเบิลนั้น อับราฮัม ได้ช่วยขับไล่ ฮาการ์และอิชมาเอลไป และใช้ชีวิตอยู่กับซาร่าห์ แต่ในอัลกุรอานซึ่งเรียกอับราฮัม ว่า อิบราฮิม ระบุไว้ว่าอิบราฮิมได้ติดตาม ฮาการ์และอิชมาเอลไป และอิบราฮิมและอิชมาเอลนั่นเอง ที่ในตอนท้ายเป็นผู้สร้าง หินกะบะฮ์ ในนครเมกกะ อย่างไรก็ตาม ทั้งคัมภีร์ไบเบิลและ อัลกุรอาน ก็บอกไว้ว่าพระเจ้าให้สัญญาไว้ ว่าทั้งอิสอัคและอิชมาเอล จะเป็นบรรพบุรุษของกลุ่มชนที่ยิ่งใหญ่ มีอีกเรื่องหนึ่งที่เกือบเหมือนกัน ในเรื่องราวทั้งสองนี้ พระเจ้าตรัสกับอับราฮัม หรืออิบราฮิม ว่าให้เอาลูกชายของเขาไปบูชายัญ ในคัมภีร์ไบเบิล อิสอัค คือผู้ที่ต้องถูกบูชายัญ แต่ในคัมภีร์อัลกุรอานคืออิชมาเอล อับราฮัมกำลังจะเตรียมการบูชายัญ ด้วยการฆ่าลูกชายของตัวเอง แต่แล้วทูตสวรรค์ก็ปรากฏตัวขึ้น และหยุดเขาในวินาทีสุดท้าย ถือว่าโชคยังดี ทูตสวรรค์มอบสัตว์ให้อับราฮัมบูชายัญแทน ทั้งคัมภีร์ไบเบิลและอัลกุรอาน ได้บรรยายว่า เด็กชายทั้งสองมีชีวิตต่อมา และมีลูกหลานอีกหลายคน ชาวยิวมองว่าอิสอัคเป็นบรรพบุรุษของพวกเขา และพวกมุสลิมมองอิชมาเอลเป็นบรรพบุรุษ ดังนั้น พ่อของเด็กชายเหล่านี้ ซึ่งก็คืออับราฮัม ได้กลายเป็นบรรพบุรุษ หรือ อัครบิดรของคนจำนวนมาก ทั้งชาวยิว ชาวคริสเตียนและชาวมุสลิม เขาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ ของความเป็นพี่น้อง ระหว่างทั้ง 3 ศาสนาที่มีหลายสิ่งร่วมกัน นี่คือเหตุผลที่ทั้งสามศาสนาถูกเรียกว่า ศาสนาอับบราฮัม แต่เรื่องราวของชาวคานาอัน ไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ นี่คือ "ยาโคบ" ลูกชายของอัสอัค พระคัมภีร์ได้เล่าว่าหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ชื่อใหม่ ว่า"อิสราเอล" และลูกหลานของเขา หลายชั่วอายุคน ก็ถูกเรียกว่าชาวอิสราเอล และชาวอิสราเอลนี่เอง ก็คือกลุ่มคนที่พิชิตดินแดน คานาอันในที่สุด