โมเสส

นี่คือดินแดนคานาอัน ที่ซึ่งลูกหลานของอับราฮัมอาศัยอยู่ พวกเขาได้ชื่อว่า "ชาวอิสราเอล" พวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดีในดินแดนแห่งนี้ แต่นั้นกำลังเปลี่ยนไป เกิดภาวะขาดแคลนอาหารขึ้น เพื่อให้หลุดพ้นจากความอดอยาก ชาวอิสราเอลจึงย้ายไปอยู่ที่อียิปต์ ชีวิตที่อียิปต์ของพวกเขาราบรื่นดี ตลอดเวลาหลายร้อยปี แต่เมื่อเกิดการผลัดแผ่นดิน คือมีฟาโรห์องค์ใหม่ ฟาโรห์เกรงว่าชาวอิสราเอลจะเพิ่มจำนวน มากเกินไป จึงกดขี่ให้พวกเขาเป็นทาส ฟาโรห์คิดว่าถ้าพวกเขาเป็นทาสและ อยู่อย่างลำบาก พวกเขาก็จะไม่มีลูกมาก แต่ฟาโรห์คิดผิด เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไร ชาวอิสราเอลก็เพิ่มจำนวนขึ้นอยู่ดี ฟาโรห์จึงสังหารเด็กทารก ชาวอิสราเอลทุกคน รวมถึงเด็กคนนี้เขาคือ"โมเสส" แต่แม่ของโมเสสไม่อยากให้ลูกตาย เธอจึงเอาลูกชายใส่ไว้ในตระกร้า แล้วลอยไปในแม่น้ำไนล์ อย่างน้อยลูกของเธอ ก็คงลอยไปในที่ๆปลอดภัย ทว่าโมเสสก็ไปได้ไม่ไกลนัก เพราะเจ้าหญิงผู้นี้ ผู้ซึ่งเป็นลูกสาวของฟาโรห์ เธอพบเด็กน้อย และนำเขาไปเลี้ยงดูที่วังของอียิปต์ เขาจึงเติบโตขึ้นมาในฐานะเจ้าชาย แต่โมเสสกลับไม่รู้สึกเลยว่า ตนเป็นเหมือนชาวอียิปต์คนอื่นๆ เขาสังเกตเห็นความทุกข์ยากของชาวอิสราเอล และวันหนึ่งเมื่อเขาเห็น ชาวอิสราเอลถูกเจ้าของทำร้าย โมเสสจึงโกรธจัดและ สังหารชาวอียิปต์ผู้นั้น โอ้ ตอนนี้เขาต้องหนีแล้ว โมเสสต้องเดินทางผ่านทะเลทรายไซนาย และเดินขึ้นภูเขาโฮเรบ นั่นอะไรน่ะ? พุ่มไม้ไฟ โมเสสจึงตรงดิ่งเข้าไป พุ่มไม้ไฟนั้นกำลังพูดอยู่ แต่พุ่มไม้มันพูดไม่ได้ไม่ใช่หรือ? ไม่เลย ดูนั้นสิ : ทูตสวรรค์ พระเจ้านั่นเองที่คุยกับโมเสส ผ่านพุ่มไม้นั้น พระเจ้าได้เผยชื่อของเขาให้โมเสสรู้ คือยาห์เวห์ และได้มอบภารกิจ ให้เขากลับไปที่อียิปต์ เพื่อปลดปล่อยชาวอิสราเอลและ นำพวกเขากลับไปสู่ดินแดนคานาอัน โมเสสได้พยายามโน้มน้าว ให้ฟาโรห์ปลดปล่อยชาวอิสราเอล แต่ฟาโรห์ปฏิเสธ พระเจ้าจึงช่วยโมเสส โดยการทำให้เกิดภัยพิบัติ 10 ประการขึ้นในอียิปต์ น้ำในแม่น้ำไนล์เปลี่ยนเป็นเลือด พืชผลต่างๆ ถูกตั๊กแตน ฝูงใหญ่เข้ามากัดกิน และท้ายที่สุดคือยมทูต ได้พรากเอาชีวิตบุตรชายคนโต ในทุกๆครัวเรือนของชาวอียิปต์ ตอนนี้ฟาโรห์เริ่มกลัว จึงยอมปล่อยทาสเป็นอิสระ ชาวอิสราเอลเคลื่อนขบวนออกไป แต่เมื่อพวกเขาไปถึงทะเลแดง ฟาโรห์และทหารของเขาก็ปรากฏตัวขึ้น ฟาโรห์เกิดเปลี่ยนใจ ตอนนี้เขาอยากจะฆ่าชาวอิสราเอลทุกคน โมเสสยกมือขึ้นสูงเหนือทะเล แล้วทะเลก็แยกออกจากกัน ชาวอิสราเอลจึงเดินบนพื้นใต้ทะเลได้ ฟาโรห์และเหล่าทหารยังคงตามไป แต่ทันทีที่ชาวอิสราเอลข้ามทะเลได้ น้ำทะเลก็ซัดกลับมารวมกันอีกครั้ง ชาวอียิปต์จึงจมน้ำตาย โมเสสนำชาวอิสราเอลมาที่ ไซนายและเชิงเขาโฮเรบ และตอนนี้โมเสสก็ได้พบ กับพระเจ้าอีกครั้ง พระเจ้าต้องการสร้างข้อตกลงเป็นพันธสัญญา กับโมเสสและชาวอิสราเอล ถ้าหากพวกเขาเชื่อฟังและ ทำตามกฎที่พระเจ้าตั้งขึ้น พวกเขาจะกลายเป็นมนุษย์ผู้ศักดิ์สิทธิ ของพระเจ้า โมเสสได้อธิบายให้ชาวอิสราเอลฟัง เขาร้องขอให้พวกเขารอ ระหว่างที่เขาจะได้รับกฏจากพระเจ้า ซึ่งจะอธิบายถึงแนวปฏิบัติของพวกเขา ชาวอิสราเอลสัญญาว่าพวกเขาจะรอ โมเสสเดินขึ้นไปบนภูเขาอีกครั้ง และรับเอากฎ 10 ข้อนั้นมา นั่นคือบัญญัติ 10 ประการ การรอกฎจากพระเจ้าใช้เวลานานพอควร ผู้คนที่รออยู่จึงหมดความอดทน พวกเขารวบรวมทองคำทั้งหมดที่มี และหลอมมันให้กลายเป็นรูปปั้น ของเทพเจ้าลูกวัว พวกเขากล่าวขอบคุณเทพเจ้าลูกวัว ที่นำพาพวกเขาออกมาจากอียิปต์ ทว่าเมื่อโมเสสเห็นเข้าก็โกรธมาก เขาคิดว่า ตอนนี้พวกเขาทำลายทุกๆสิ่ง ไปหมดแล้ว พวกเขาหันไปบูชาเทพเจ้าองค์อื่น โมเสสกลัวว่าพระเจ้าพระองค์เดียวผู้นั้น จะลงโทษพวกเขา เขาจึงสั่งการให้เหล่าทหารไปจัดการ กับพวกนอกรีตทุกคน โมเสสทำให้พวกเขาต้องอยู่ใน ทะเลทรายเป็นเวลา 40 ปี ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงดินแดน แห่งพันธะสัญญาได้ในที่สุด ทำไมล่ะ? ก็เพราะพวกเขาจำเป็นต้องรวมกัน ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ปฏิบัติตามกฎกติกาเดียวกัน ซึ่งก็คือบัญญัติ 10 ประการยังไงล่ะ