
สิทธิเชิงบวกและสิทธิเชิงลบ

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
There are certain rights that mean someone -- often the government -- needs to make sure the right is fulfilled. What kind of rights are these?
บ๊อบครุ่นคิดเรื่องนี้อีกแล้ว มีบางอย่างทำให้เขาคิดว่าการเคี้ยว หมากฝรั่งจะช่วยรักษาโรคมะเร็ง และตอนนี้เขาก็เขียนเรื่องนี้ไปแล้วด้วย แต่หนังสือพิมพ์ของเกาะแห่งนี้ ไม่อยากเผยแพร่ข้อความนั้น พวกเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งไร้สาระ บ๊อบถูกมองข้าม เขาคิดว่านี่เป็นการละเมิด ต่อเสรีภาพในการพูดของเขา ใช่ จะว่าเป็นการเซ็นเซอร์ก็ใช่นั่นแหล่ะ พวกเราไม่มีเสรีภาพในการพูด บนเกาะแห่งนี้อีกแล้วเหรอ? เสรีภาพของสื่อมวลชน? ไม่นะ มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เสรีภาพในการพูดและเสรีภาพของสื่อ ไม่ได้บังคับว่าหนังสือพิมพ์ต้อง ตีพิมพ์สิ่งที่เราเขียนลงไป นี่มันเป็นสิทธิเชิงลบ แล้วเชิงลบนี่มันหมายถึงอะไรล่ะ? เสรีภาพทางการพูดเป็นสิ่งที่แย่งั้นเหรอ? เปล่าเลย ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แบบนี้: สิทธิน่ะมีทั้งเชิงบวกและเชิงลบ สิทธิเชิงลบ คือสิทธิในการหลีกเลี่ยงกับบางสิ่ง บางอย่าง อย่างเช่นสิทธิที่จะไม่ต้องถูกทรมาน ซึ่งเป็นสิทธิเชิงลบ เสรีภาพทางศาสนาก็เช่นกัน หมายถึงว่าเรามีสิทธิที่จะไม่ถูกลงโทษ ในสิ่งที่เราเชื่อ ก็เหมือนกับเสรีภาพทางการพูด ซึ่งเป็นสิทธิเชิงลบ เสรีภาพในการพูดช่วยให้สิทธิเรา ในการแสดงความเห็นโดยไม่มีการลงโทษใด แต่เมื่อไหร่ที่ตะโกนคำว่า"เซ็นเซอร์" ออกไป เมื่อหนังสือพิมพ์ไม่ตีพิมพ์ สิ่งที่เราเขียน มันคือเสรีภาพทางการพูด และเสรีภาพของสื่อมวลชน ซึ่งเป็นสิทธิเชิงบวก สิทธิเชิงบวกคือสิทธิ์ในการได้รับ ค่อนข้างเป็นมากกว่าสิทธิที่จะหลีกเลี่ยง มันอาจเป็นสิทธิในการรับบริการสุขภาพ หรือสิทธิในการศึกษา สิทธิเชิงบวกเป็นการเรียกร้องให้บุคคล ซึ่งมีหน้าที่ต้องปฏิบัติ ต้องตรวจสอบ ให้แน่ใจว่าสิทธิได้รับการเติมเต็มหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่รัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระนั้น ดังนั้นสิทธิเชิงบวกสำหรับคนๆหนึ่ง คือภาระหน้าที่ต่อบุคคลอื่นๆ แต่ในทางกลับกัน สิทธิเชิงลบ ไม่ได้เรียกร้องให้คนอื่นๆ ทำบางอย่างเพื่อสนองความพอใจของเรา เสรีภาพทางการพูดของเรา ต้องการเพียงเพื่อให้คนอื่นหลีกเลี่ยง การทำตัวให้เป็นอุปสรรคต่อการแสดง ความคิดเห็นของเรา และเนื่องจากคนอื่นๆก็ได้รับ อนุญาตให้แสดงออกเช่นกัน นั้นหมายถึงว่าเราต้องอดทน ต่อสิ่งที่เราเห็นและได้ยินใน สิ่งที่เราไม่เห็นด้วย และเราก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะหลีกเลี่ยง ที่จะได้ยินหรือเห็นในสิ่งที่เราไม่ชอบ และเราก็ไม่อาจห้ามผู้อื่นให้หยุด แสดงออกได้เหมือนกัน แต่ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก ฉันแค่จะบอกความจริงเรื่องโรคมะเร็ง และการเคี้ยวหมากฝรั่ง อืม นายมีสิทธิ์ในการเขียน แต่แค่ไม่มีสิทธิ์จะยืนกรานให้ ใครเผยแพร่มัน แต่นายก็เผยแพร่มันด้วยตัวเองได้นะ ลงบนเว็บไซต์หรือพิมพ์ลงในใบปลิวสิ ไม่เป็นไรหรอก แค่จำไว้ว่าไม่ว่าใครๆ ก็มีสิทธิ์เลือกที่จะไม่อ่าน หรืออ่านข้อความของนาย และหาข้อโต้แย้ง และพิสูจน์ว่าข้อมูลในนั้นมันผิดได้