จะจ่ายตอนนี้ หรือจ่ายทีหลัง

ไมเคิลอยากซื้อรถจักรยานยนต์ แต่มันค่อนข้างแพง แม้ว่าไมเคิลจะทำงานในทุกฤดูร้อน และในวันสุดสัปดาห์ ก็ยังต้องใช้เวลาเกือบปี ในการเก็บเงิน แต่ไมเคิลต้องการใช้จักรยานยนต์ตอนนี้ ...อะฮ่า ทางร้านมีข้อเสนอแก่ไมเคิล ในการซื้อจักรยานยนต์ โดยให้แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ หรือการซื้อเชื่อ (credit purchase) ซึ่งเขาจะจ่ายเงินน้อยลงในแต่ละเดือน และเขาก็สามารถขี่จักรยานยนต์ กลับบ้านได้ทันที ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ? ซื้อตอนนี้ และจ่ายเงินทีหลัง? ไม่สิ รอซักแป๊บนะไมเคิล ลองมาคิดเลขกันก่อน นี่คือแผนการผ่อนชำระ ... เขาต้องจ่ายเงินจำนวนน้อยๆในแต่ละเดือน เป็นเวลา 24 เดือน หรือ 2 ปี ตอนนี้เราสามารถเปรียบเทียบได้แล้ว ใส่การจ่ายเงินในการซื้อเชื่อทั้งหมด เข้าไป โดยการเอาค่างวดรายเดือน คูณกับจำนวนเดือน และจากนั้นทางร้านจะใส่ค่าธรรมเนียม ที่ชัดเจนเข้าไป ซึ่งเราจะต้องจ่ายตรงนี้และเดี๋ยวนี้ ใส่ลงไป ดังนั้น เราจึงมีทางเลือกระหว่าง จ่ายตอนนี้ หรือจ่ายทีหลังแต่จ่ายเยอะขึ้น ... ส่วนต่างระหว่างการจ่าย 2 แบบ แสดงให้เห็นว่าเราต้องจ่ายเงินมากขึ้น เท่าไหร่ในการซื้อเชื่อ นี่เป็นยอดต้นทุนเงินกู้ทั้งหมด ลองถามตัวเองสิว่ามันคุ้มไหม ที่จะจ่ายต้นทุนเงินกู้นี้ เพิ่มจากราคาจักรยานยนต์ ที่เราต้องจ่ายอยู่แล้ว เพียงเพื่อจะได้รถมาใช้ก่อนน่ะ? ... เซ็งไปเลยใช่ไหมล่ะ? ใช่ มันจะดูสนุกขึ้นถ้าได้ใช้ของทันที แต่เราก็ต้องแลกด้วยการจ่ายที่แพงขึ้นน่ะ ทว่าบางทีมันก็คุ้มค่านะ อย่างนี้ สมมติว่าเราซื้อจักรยานยนต์วันนี้ และจ่ายเงินเป็นงวด และนั่นเป็นเพราะว่าเรากำลังทำสิ่งนี้อยู่ เราสามารถหางานภาคฤดูร้อนที่ดีขึ้น และทำเงินได้มากขึ้น เราอาจทำเงินได้มากมายจากงานใหม่นั่น ซึ่งรายได้ที่สูงขึ้นจะครอบคลุม ต้นทุนเงินกู้ทั้งหมด ในกรณีนี้ เราจะได้ประโยชน์จากการ ซื้อทันทีและจ่ายทีหลัง ... มันก็เหมือนกับที่เรากู้ยืมเงินเพื่อ การศึกษานั่นแหล่ะ เพื่อจะได้มีค่าใช้จ่ายในการเรียน มหาวิทยาลัย นี่คือเส้นเวลาจากนี้ไปจนถึงวัยเกษียณ ... และนี่คือเงินรายได้ในแต่ละปี หลังจากที่ไม่ได้เรียนต่อแล้ว ทีนี้ถ้าเรากู้ยืมเงินเพื่อการศึกษามา เราก็จะต้องจ่ายค่างวดเป็นเวลานานหลายปี และเราจะขาดรายได้ไปในบางช่วงปี ระหว่างที่เรากำลังศึกษาอยู่ ดังนั้นมันจึงทำให้เรามีค่าใช้จ่ายมากมาย แต่ถ้าเราเลือกเรียนสาขาที่ถูกต้องและ เรียนอย่างจริงจัง เราก็อาจจะได้รายได้ที่สูงขึ้นในภายหลัง และถ้าลองคำนวณรายได้ในชีวิตที่คาดหวัง แล้วลองเปรียบเทียบ มันก็เป็นไปได้ว่า เราจะได้ประโยชน์ จากการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ดังนั้น การซื้อเชื่อหรือการผ่อนชำระ ก็เป็นการกู้ยืมเงินอย่างหนึ่ง การกู้ยืมเพื่อการบริโภค เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยฉลาดนัก แน่นอนว่าเราจะได้สิ่งของมาก่อน แต่เราจะเหลือเงินเพื่อซื้อของ ที่เราอยากได้น้อยลง เนื่องจากเงินบางส่วนของเรา จะหมดไปกับการจ่ายดอกเบี้ย แต่ถ้าเรากู้ยืมเงินเพื่อเอาไปทำงาน หรือเพื่อการศึกษา เงินกู้ของเราก็จะเป็นส่วนหนึ่ง ของการลงทุนสำหรับอนาคต และเป็นประโยชน์กับเรา แม้ว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยก็ตาม