ลำดับขั้นของประชาธิปไตย

บนเกาะนี้ คนที่นี่มีความสุขมาก ที่พวกเขาเป็นประชาธิปไตย ผู้ใหญ่ทุกคนได้รับอนุญาต ให้ลงคะแนนเสียง และพวกเขายังเคารพใน สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน พวกเขาเชื่อว่าการได้รับอะไรแบบนี้ ก็ถือว่าดีมากแล้ว พวกเขาไม่ต้องการแม้แต่จะค้าขาย กับหมู่เกาะที่ไม่เป็นประชาธิปไตย นั่นคือสิ่งแรกที่พวกเขานำมาตัดสิน เมื่อพวกเขาจะสร้างสัมพันธ์กับเกาะใหม่ ผู้คนในเกาะภูเขาไฟซึ่งอยู่ใกล้เคียง ต่างแปลกใจมากที่ได้ยินว่า พวกเขาไม่เป็นประชาธิปไตย ดังนั้น จึงมีการส่งตัวแทนมายังเกาะนี้ เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็น ประชาธิปไตยเหมือนกัน ไม่เป็นประชาธิปไตยเหรอ? อย่างน้อยหนังสือพิมพ์ต้องได้เขียน ในสิ่งที่พวกเขาอยากเขียน สวัสดีจ้ะ พวกเธอไม่มีแม้แต่ การเลือกตั้งแบบอิสระด้วยซ้ำ แล้วก็มีพรรคการเมืองแค่พรรคเดียว ก็ใช่ แต่พวกเรามีการลงประชามติ ในแทบทุกเรื่องแทน โอ้ ฉันล่ะอยากขอให้มีเครื่องตรวจจับ ประชาธิปไตยจัง ฉันจะได้ทำให้เธอเห็นว่า ที่เธอคิดน่ะมันผิด ว้าว แต่เดี๋ยวก่อน นี่อะไรน่ะ? มาตรวัดเหรอ? มันไม่ได้บอกแค่เพียงว่า 'เป็น'หรือ'ไม่เป็น'ประชาธิปไตยหรอกเหรอ? ไม่ใช่เลย นั่นไม่ใช่กลไลการทำงานของมัน ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่สิ่งเดียว ที่เรามีหรือไม่มี แต่มันซับซ้อนกว่านั้น ลองแกะอุปกรณ์นี้ดูสิ และดูด้วยตัวเอง เครื่องตรวจจับประชาธิปไตยนี้ จะมีเซ็นเซอร์จับสัญญาณอยู่ 5 แบบ แบบแรกอยู่ตรงนั้น ตรวจจับกระบวนการเลือกตั้งและพหุนิยม นั่นหมายความว่ามีการเลือกตั้ง อย่างเสรี ที่ผู้ใหญ่ทุกคนจะลงคะแนนเสียง ให้กับคนที่พวกเขาชื่นชอบ โดยไม่ถูกกดดันและไม่มีการโกง การเลือกตั้งนั้นเป็นแบบเปิด ทุกคนมีส่วนร่วม และมีตัวเลือกที่หลากหลาย เมื่อมีการลงคะแนนเสียง แต่ประชาธิปไตยเป็นมากกว่า ระบบลงคะแนน แบบที่ 2 นั้น คือมาตรวัดสิทธิมนุษยชน มันจะสนองตอบต่อประเทศที่มี การจำกัด เสรีภาพในการพูด เสรีภาพของสื่อมวลชน เสรีภาพทางศาสนา ทั้งยังมีสิทธิด้านการพิจารณาคดี ที่เหมาะสม หรือสิทธิขั้นพื้นฐานอื่นๆ แล้วนี่ ตัวเซ็นเซอร์แบบที่ 3 มันตรวจจับว่ารัฐบาลและการบริหารงาน ดีเพียงใด ผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทน กำลังทำตามการลงมติหรือไม่ และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ที่สอดคล้องกับประชาธิปไตยไหม ถ้าไม่เช่นนั้น การที่คนลงคะแนนเลือกมาก็ไม่เกิดผลอะไร และสีฟ้าเล็กๆนั่น คือแบบที่ 4 ตัวตรวจจับวัฒนธรรมทางการเมือง เพื่อให้ประชาธิปไตยทำงานได้ จำเป็นที่คนส่วนใหญ่ต้องยอมรับ ประชาธิปไตยต้องการวัฒนธรรมทางการเมือง ที่ทั้งนักการเมืองและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย ตัวอย่างเช่น ทุกคนต้อง ยอมรับผลการเลือกตั้ง แม้ว่าพวกเขาจะแพ้ก็ตาม แบบที่ 5 คือมาตรวัดการมีส่วนร่วม ทางการเมือง เพื่อให้ประชาธิปไตยทำงานได้ จำเป็นต้องมีคนจำนวนมากเข้ามา เกี่ยวข้องและมีส่วนร่วม ในการอ่าน การโต้วาที การคิด การแสดงความเห็น และการลงคะแนนเสียง มิฉะนั้น อำนาจทางการเมืองที่แท้จริง ก็จะไม่ได้มาจากประชาชนทุกคน แต่มาจากคนกลุ่มเล็กๆ ที่ให้ความสนใจแค่นั้น เอาล่ะ มาวัดกัน เอ๊ะ โอเค ไม่มีใครที่ได้คะแนนเต็มเลย ถูกแล้ว นั่นคือประชาธิปไตย ซึ่งไม่มีอะไร 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องมีอะไรผิดปกติกับมาตรวัดนี่แน่ๆ มันไม่เป็นความจริงแน่ๆ ที่ว่าประชาธิปไตยประกอบด้วย 5 สิ่ง ที่กล่าวมาน่ะ ใช่ไหม? ก็ถูกอีกนั่นแหล่ะ การตัดสินว่าสิ่งใดเป็นประชาธิปไตย นั้นมีอยู่หลายวิธี และไม่มีวิธีใดที่เป็นวิทยาศาสตร์ อย่างแท้จริงเลย และทุกอย่างก็ย่อมเปลี่ยนไป ตามกาลเวลา หนึ่งร้อยปีก่อน แทบจะไม่มีสังคมไหนอนุญาต ให้ผู้หญิงลงคะแนนเสียงได้ แต่ก็ยังสามารถเรียกตัวเอง ว่าเป็นประชาธิปไตย แต่แม้ว่าจะไม่มีคำตอบที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องสำคัญ ในการวัด การป้องกัน และการพัฒนาคุณสมบัติต่างๆที่ร่วมกัน ก่อร่างจนเป็นประชาธิปไตยของพวกเรา