ลัทธิเสรีนิยม

เราไม่ได้อยู่ในยุคที่ดีที่สุดใช่ไหม? ประชาธิปไตย เสรีภาพในการพูด เสรีภาพของสื่อ เสรีภาพในการนับถือศาสนา นี่ล้อเล่นใช่ไหม แล้วคิดว่ายังไง กับเรื่องความอยุติธรรม ที่มีอยู่ในโลกนี้น่ะ แน่นอน มันยังมีความอยุติธรรมอยู่มากมาย แต่ตอนนี้เราอยู่ในทางที่ถูกต้อง ซึ่งมันแย่กว่าที่ผ่านมาอย่างมาก ใช่เลย มันเป็นแบบนั้น ผู้คนมากมายในทุกวันนี้ไม่ได้ ถูกปกครองแบบเผด็จการแล้ว แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเราตีความ คำว่าเผด็จการออกมาแบบไหน เราไม่ได้เป็นทาสของเงิน และโภคยกรรมใช่ไหม สังคมที่เราบอกว่าเป็นสังคมเสรี คือสังคมที่เราถูกควบคุมมากที่สุด โดยบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ ไม่ใช่นะ เผด็จการต่างหาก ที่ทำให้รัฐบาลมีอำนาจ ฉันหมายถึง ในสังคมที่ดี รัฐบาลจะได้อำนาจมาจากประชาชน ประชาชนอาจจะพูดได้ว่า เอาล่ะ คุณสามารถรับผิดชอบมันได้สักระยะ ตราบใดที่การตัดสินใจนั้น ยังเป็นประโยชน์กับประชาชนอยู่ แต่ถ้าคุณเริ่มสร้างผลประโยชน์ให้ตัวเอง พวกเราก็จะมอบอำนาจนั้นให้คนอื่นแทน มันเป็นเหมือนข้อตกลงระหว่างประชาชน และรัฐบาล สัญญาของสังคม ประชาชนก็คือพวกเรา อนุญาตให้รัฐบาลขึ้นมามีอำนาจ เรามอบอำนาจให้พวกเขา และถ้าพวกเขาใช้มันในทางที่ผิด เราก็สามารถเอามันคืนมาได้ และนี่คือสาเหตุที่เราต้องแยกรัฐ ออกจากศาสนา รัฐมีอยู่เพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อพระเจ้า อืม แต่ก็ไม่มีใครดูแคลน ความสำคัญของศาสนา ในสังคมต่ำเกินไปหรอกใช่ไหมล่ะ? มันมีเหตุผลนะ ที่ศาสนา มีบทบาทสำคัญ ในหลายอารยธรรมที่เรารู้จัก หากมีใครพยายามโค่นศาสนาลง สังคมจะมั่นคงไปไม่ได้เลย หากไร้ซึ่งศาสนาน่ะ ฉันไม่ได้บอกนะว่าจะโค่นศาสนา ในทางตรงกันข้าม เราต้องใจกว้างกับ ทุกศาสนา ทุกคนมีอิสระที่จะเชื่อในศาสนาใดก็ได้ ตามที่ใจต้องการ แต่ความเชื่อนั้นก็เป็นสิ่งที่ บังคับกันไม่ได้ และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานจึงสำคัญ มันเกี่ยวข้องกับเราทุกคน ในฐานะปัจเจกบุคคลที่มีอิสระในความเชื่อ, การพูด และได้ใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ ไม่มีใครมีสิทธิที่จะ ละเมิดสิทธิเหล่านั้น ดังนั้น สังคมจึงประกอบไปด้วยบุคคล และบทบาทของรัฐบาลก็คือ ช่วยให้บุคคลเหล่านั้น เป็นอิสระที่สุด ช้าก่อนพ่อหนุ่ม สังคมยังประกอบด้วยครอบครัว และญาติพี่น้อง รวมถึงบริษัทต่างๆ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทุกคนดูแล แต่ตัวเอง และความสุขของตัวเอง สังคมก็จะล่มสลายน่ะสิ หากเรามุ่งเน้นเฉพาะไปแค่บุคคล เราก็จะพลาดภาพรวม เรื่องการกระจายอำนาจในสังคมไงล่ะ เราต้องช่วยกันทำงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ประโยชน์ที่มีต่อส่วนรวม เป็นสิ่งสำคัญ มากกว่าที่จะทำตามข้อเรียกร้อง ของแต่ละคน ใช่เลย คนอื่นๆก็จำเป็นด้วย สังคมเป็นธรรมชาติของมนุษย์เรา และเราร่วมมือกับผู้อื่นได้อย่างเต็มที่ แต่นั่นต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ และเป็นไปตามข้อตกลงที่ 2 ฝ่ายยอมรับได้ แต่ถ้าไม่ใช่ มันจะเป็นการกดขี่ ไม่ว่าจะเป็นในครอบครัวหรือบริษัทก็ตาม แล้วถ้าเรามุ่งเน้นแต่เรื่องส่วนตัว มันจะเกิดอะไรขึ้น? มันก็จะนำเราไปสู่สังคมที่เห็นแก่ตัว ที่ซึ่งคนรวยจะยิ่งรวยขึ้น ไม่ทั้งหมดหรอก ไปดูตัวอย่าง ที่คนอบขนมปังคนนี้ดูสิ เขาต้องการขายขนมปังเพิ่ม เพื่อทำเงินให้กับตัวเอง และเพื่อทำในสิ่งที่เขาสนใจ แต่เขาจะขายขนมปังได้มากขึ้นแน่ ถ้าขนมปังที่อบนั้นมีราคาถูกกว่า หรืออร่อยกว่า ขนมปังจากร้านเบเกอรี่ร้านอื่น ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของเขา ดังนั้น มันจึงไม่ได้มาจากความใจดี ของคนอบขนมปัง อย่างที่เราคาดหวังกับขนมปังบนโต๊ะ แต่มันมาจากการหาผลประโยชน์ ของเขาเอง ใช่แล้วล่ะ แต่สำหรับฉัน ฉันว่ามันอร่อยนะ