ตัวอย่าง : การเปิดเรื่อง

เมื่อมีคนเขียนข้อความเชิงโน้มน้าวใจ เช่น กระทู้อภิปรายหรือเว็บบล็อก นั่นแปลว่าเขาต้องการให้เราเข้าใจ และเข้าถึงใจความสำคัญ ผู้เขียนต้องการสร้างอิทธิพล ต่อทัศนคติของเรา นั่นเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไม เราต้องกลายมาเป็นผู้อ่านอย่างมีส่วนร่วม เมื่อเราได้อ่านข้อความนั้น ด้วยเหตุนี้ เราจะไม่โอนอ่อน ไปยอมรับความคิดที่เราไม่ได้ยึดถือ ถ้าเราอ่านอย่างมีส่วนร่วม เรามักจะอ่านเชิงวิพากษ์ด้วย โดยการทำแบบนี้ ให้เริ่มต้น ด้วยการใช้กลยุทธ์: การทำนาย การทำแบบนี้จะช่วยเราคัดประเด็นที่น่าสนใจ และเพื่อดูว่าเรารู้มุมมอง ของผู้เขียนหรือไม่ มันจะช่วยให้เราเข้าใจบริบทของข้อความ อืม หัวเรื่องมันมีอยู่ว่า "เก็บเบสท์วู้ดไว้" คนที่ชื่อไมเคิล ได้เขียนโพสต์นี้ลงไปที่กลุ่ม 'เบสท์วู้ด' ในเฟสบุ้ค พอจะเดาอะไรจากชื่อหัวข้อออกบ้างไหม? ดูเหมือนว่าไมเคิลจะไม่พอใจ กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นใน เบสท์วู้ดซึ่งเป็นที่ๆเขาอาศัยอยู่ และเขาต้องการจะรักษาบางอย่างไว้ นี่น่าสนใจนะ แน่นอน เราย่อมอยากเข้าร่วม ในการรักษาสิ่งสำคัญไว้ถ้าเป็นไปได้ สงสัยบ้างไหมว่าไมเคิลจะสร้างอิทธิพล กับผู้อ่านคนอื่นให้เห็นด้วยเขา ได้อย่างไร? ว่าแต่ไมเคิลคือใคร? เขาเป็นคนเชื่อถือได้ไหม? เขาดูเป็นคนดีหรือเปล่า? แล้วคนอื่นจะเข้าใจไหมว่าทำไมเขาถึง ยึดถือความคิดที่เขากำลังทำอยู่? แล้วเราจะได้เห็นเอง แต่ตอนนี้ ได้เวลาอ่านโพสต์แล้วล่ะ "เก็บเบสท์วู้ดไว้" นานมาแล้ว อดีตหัวหน้าแผนกสันทนาการ คือคุณฮอพพิท ได้มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็ง ในการสร้างทางวิ่งจ็อกกิ้งผ่านเบสท์วู้ด เธอมีอาสาสมัครหลายคนมาช่วย ทำทางเส้นนี้ในเวลาว่าง ในขั้นแรกนั้นมีเส้นทางรวมอยู่ที่ 2,000 เมตร และต่อมาก็ถูกเพิ่มเป็น 3,500 เมตรในที่สุด อาสาสมัครต่างใช้ม้าและเกวียน ในการสร้างทาง 'เกวียน' มันเอามาใช้ยังไงนะ? ในการทำความเข้าใจข้อความนี้ เราจะใช้กลยุทธ์ การทำความเข้าใจคำและสำนวนยากมาช่วย อ่านคำพวกนั้นอีกครั้ง และลองคิดดูว่าเคยได้ยินมันมาก่อนไหม อะฮ่า มันเหมือนรถเข็นนี้! นั่นคือสิ่งที่เราเคยได้ยิน รถเข็นเป็นสิ่งที่เราเอาไว้บรรทุกของ และรถเข็นโบราณ หน้าตาเหมือนกับรถม้า แล้วถ้าเราลองค้น ในกูเกิ้ลด้วยคำว่า"เกวียนโบราณ" จะรู้เลยว่าหน้าตาเหมือนรถเข็นมาก อ่านย่อหน้านี้อีกครั้ง และถ้าเข้าใจดีแล้ว เราก็ อ่านมันต่อได้เลย อาสาสมัครที่สร้างเส้นทาง ใช้ม้าและเกวียนไปขนเอาตอและกิ่งไม้ ออกมาจากเส้นทางที่พวกเขาทำงานอยู่ ไม่นานไฟส่องสว่างก็ถูกติดตั้ง ตามเส้นทางวิ่ง เส้นทางที่ต่อขยายเพื่อการเดินวิ่งนี้ ยังได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นเส้นทาง ในการเล่นสกีในฤดูหนาวด้วย ตอนนี้เราจะใช้กลยุทธ์: การจินตนาการ คือสร้างภาพจากภายใน เราจะเห็นภาพสถานที่ๆมีไฟส่องสว่าง คนกำลังวิ่งจ๊อกกิ้ง หรือกำลัง เล่นสกีอยู่ใช่ไหม? ถ้าเราเคยวิ่งออกกำลังในป่า ภาพภายในพวกนี้อาจดูเหมือน ทางที่เราใช้วิ่งตามปกติ "สำหรับครอบครัวของผม เส้นทางเหล่านี้มีความหมายอย่างยิ่ง พวกเราชอบวิ่งมาราธอน และเส้นทางในเบสท์วู้ดนี้ เป็นที่ๆเราเตรียมตัวและฝึกซ้อมเรื่อยมา แม้ว่าเราจะต้องวิ่งกันหลายๆรอบ เพื่อทำให้ระยะทางนั้นเท่ากับ การวิ่งมาราธอน แต่เราก็สนุกกับมันเพราะมีธรรมชาติ ตลอดเส้นทาง มันช่างเหลือเชื่อจริงๆ" เมื่อได้อ่านข้อความนี้ เราจะรู้สึก เคลื่อนไหวและมีส่วนร่วมไปกับมัน สิ่งนี้เกิดขึ้นได้เพราะเราใช้กลยุทธ์ การเชื่อมโยงข้อความ คือการเชื่อมโยงข้อความกับตัวเอง ถ้าเราเคยซ้อมวิ่งก่อนการแข่งขัน และได้เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ อันสวยงามที่ยังไม่บุบสลาย เราจะรู้สึกถึงความสำคัญของการวิ่ง และการที่ได้อยู่ในป่า ตอนนี้เราได้ใช้กลวิธีบางอย่างเพื่อทำ ความเข้าใจข้อความเชิงโน้มน้าวใจ มันจึงง่ายที่จะเข้าใจว่าทำไม ไมเคิลถึงอยากให้เส้นทาง ยังอยู่เหมือนเดิม แต่มันอาจมีเหตุผลว่า ทำไมเส้นทางนี้จะต้องถูกยกเลิก ก่อนที่จะได้อ่านเรื่องนี้ เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า เราจะเห็นด้วยกับเขาไหม เราจะได้รู้เหตุผลนั้นในตอนที่ 2 ของวิดีโอเรื่องนี้