ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ ปัจจุบันกาล และอนาคตกาล

เกือบเที่ยงแล้ว ไมเคิลส่งข้อความมาหาลีน่า Är du hungrig? Jag äter nu Tyvärr, jag har redan ätit ไมเคิลถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ คำกริยาจะเปลี่ยนรูป โดยขึ้นอยู่กับ เวลาที่มันเกิดขึ้น พวกเขาสร้างกาลที่แตกต่างกัน กาลที่มีกริยาบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เรียกว่า"ปัจจุบันกาล" är äter ลีน่าตอบว่าเธอกินข้าวไปเรียบร้อยแล้ว เธอกำลังใช้"ปัจจุบันกาลสมบูรณ์" ซึ่งเริ่มด้วยคำกริยาช่วย har เราจะใช้"ปัจจุบันกาลสมบูรณ์" เมื่อเราพูด ถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์นั้นสิ้นสุดลงไปแล้ว การกินของลีน่าเสร็จสิ้นไปแล้ว แต่กริยาช่วยนั้นอยู่ใน"ปัจจุบันกาล" เพราะการกินไปแล้วของลีน่า ยังคงมีผลอยู่ นี่คืออีก 2 ตัวอย่างของ "ปัจจุบันกาลสมบูรณ์" Vi bor inte där längre, vi har flyttat. Leon har skadat knät, så han missar träningen idag. "ปัจจุบันกาลสมบูรณ์"มักจะใช้ ร่วมกับ"ปัจจุบันกาล"อยู่บ่อยครั้ง ตรงนี้เรากำลังใช้"ปัจจุบันกาล" และ"ปัจจุบันกาลสมบูรณ์" ในประโยคเดียวกัน เรากำลังพูดถึงอดีต แต่เรากำลังมองย้อนไปยังอดีต จากจุดที่เป็นปัจจุบัน ว่าแต่ไมเคิลกับลีน่า เป็นยังไงบ้างนะ? Synd. Kommer du att äta tidigt imorgon också?

Nä, ska vi äta tillsammans? ไมเคิลถามถึงสิ่งที่ จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ เขาใช้กาลที่แสดงให้เห็นว่า กำลังพูดถึงอนาคต หรือ"อนาคตกาล" ในภาษาสวีเดน จะมีการใช้คำกริยาช่วย มาสร้างอนาคตกาล kommer คำตอบของลีน่าก็เป็นอนาคต แต่ทว่าเธอใช้คำกริยาช่วยอื่น ska ด้วยกริยาช่วยนี้ จะทำให้ เราพูดถึงอนาคต แต่ในขณะเดียวกัน ก็แสดงให้เห็นว่า เราได้ตัดสินใจแล้วที่จะทำบางสิ่งด้วย ในภาษาสวีเดน มีวิธีการบอก ถึงอนาคตอยู่ 3 แบบ ตรงนี่คือทั้ง 3 วิธีดังกล่าว Ni kommer att göra era läxor i kväll Ni ska göra era läxor i kväll Ni gör läxorna i kväll. ... Leon kommer att cykla till skolan Leon ska cykla till skolan. På måndag cyklar Leon till skolan. รูปแบบทั้งหมดเหล่านี้ มี ความหมายต่างกันเล็กน้อย รูปแบบแรกแสดงให้เห็นว่า บางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น ไม่สำคัญว่าใครจะคิดยังไง มันได้ตัดสินใจไปแล้ว รูปแบบนี้สามารถใช้สำหรับสิ่งที่เรารู้ว่า จะเกิดขึ้น เช่น เรารู้ว่าหลังกลางคืน จะเป็นกลางวันอีกครั้ง รูปแบบที่สองก็ยังคงเกี่ยวข้องกับอนาคต แต่ยังแสดงถึงความตั้งใจ หรือความ ต้องการที่จะให้สิ่งหนึ่งเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการร้องขอ หรือคำสัญญาว่าจะทำอะไรสักอย่าง แบบที่สามของการบอกอนาคต คือการใช้"ปัจจุบันกาล" ร่วมกับคำแสดงเวลาในอนาคต รูปแบบนี้เหมาะกับการพูดคุยเกี่ยวกับ กิจกรรมที่วางไว้ในอนาคต "ปัจจุบันกาล"นั้นไม่ใช่"อนาคตกาล" แต่มันสามารถใช้เพื่อพูดถึงอนาคตได้ ตราบใดที่มันมาพร้อมกับ คำแสดงเวลาในอนาคต ตอนนี้เราก็มีกาลอยู่ 3 กาล คือ"ปัจจุบันกาลสมบูรณ์" "ปัจจุบันกาล" และ"อนาคตกาล" จากทั้งหมดดังกล่าว มีเพียงปัจจุบันกาล เท่านั้น ที่ไม่ต้องอาศัยกริยาช่วย มันจึงเป็นกาลที่ง่าย Äter Gör Cyklar ทว่า"ปัจจุบันกาลสมบูรณ์" และ"อนาคตกาล" ต่างก็ต้องพึ่งพากริยาช่วย เพราะมันเป็นกาลแบบผสม "ปัจจุบันกาลสมบูรณ์"มีลักษณะดังนี้ Har ätit Har gjort Har cyklat ดังนั้น "ปัจจุบันกาลสมบูรณ์" จึงเกิดขึ้นได้ด้วยคำกริยา 2 แบบ คือกริยาช่วยและกริยาหลัก กริยาหลักนั้นจะอยู่ในรูปอดีตเท่านั้น นั่นคือ 'อดีตกาลกริยา' ในขณะที่"อนาคตกาล" นั้นจะง่ายกว่าเล็กน้อย เราสามารถใช้กริยาช่วยร่วมกับ กริยารูปพื้นฐาน แบบนี้ Ska se slutet på filmen. Kommer att höra slutmelodin. Ska snart göra quizzet.