
ประวัติศาสตร์ภาษาสวีเดน : จากยุคของไวกิ้งจนถึงยุคปัจจุบัน

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
หลังจากยุคไวกิ้ง สวีเดนกลายเป็นประเทศที่นับถือคริสต์ ซึ่งนักบวชจะใช้อีกภาษาหนึ่งในโบสถ์ คือภาษาอะไร?
เย้! พวกเราชนะแล้ว ยินดีด้วย กับการชนะ! เราจะไปดูประวัติภาษากันต่อได้หรือยัง? อยากรู้ไหมว่าภาษาสวีเดนในยุคไวกิ้ง นั้นเป็นอย่างไร? ในศิลาจารึกอักษรรูน ทำให้เรารู้ว่า เขาเขียนกันยังไงในยุคนั่น สัญลักษณ์ที่เหมือนตัวอักษรพวกนี้ เป็นอักษรรูน พวกมันมักถูกเขียนไว้ เป็นทรงคล้ายๆห่วงเหมือนงู จารึกอักษรรูนมักจะบอกเล่าเรื่องราว อย่างสั้นๆ จริงๆแล้วในแต่ละข้อความมีจำนวน อักขระมากพอๆกับ ที่เราเขียนข้อความในทวิตเตอร์ หนึ่งข้อความในปัจจุบัน คำเก่าๆในภาษาสวีเดนหลายคำ มาจากช่วงเวลาเดียวกับจารึกอักษรรูน ซึ่งเป็นคำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่มีความสำคัญมาช้านาน อย่างคำที่เกี่ยวกับครอบครัว อากาศ และอาหาร เช่น moder, fader, hus, sten, sol, yxa. เราสืบทอดคำพวกนี้มาจากบรรพบุรุษ ในภาษาสวีเดนเรียกมันว่า "arvord" อักษรรูนถูกนำมาใช้ในยุโรปเหนือ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 และนี่คือตัวอักษรรูน หรือ'รูนแถว' อักษรรูนแถวเรียกว่า "Futhark" ซึ่งเรียกตามเสียงอักษรที่ปรากฏ ในแถวแรก ในยุคไวกิ้งทางตอนเหนือของยุโรป อักษรรูนเหลือน้อยลงเพียง 16 ตัวเท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้วเพราะ อักษรรูนหลายตัว สามารถใช้แทนเสียงได้หลายเสียง ยุคไวกิ้งสิ้นสุดลงประมาณปี 900 และยุคกลางก็ได้เข้ามาสู่สวีเดน ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนเลิกนับถือ เทพโอดินและธอร์ สวีเดนกลายเป็นประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ นักบวชใช้ภาษาละตินเทศน์ในโบสถ์ Pax vobiscum! ศาสนิกชนอาจไม่เข้าใจมากนัก เมื่อศาสนาคริสต์เข้ามา ไม่เพียงแต่นักบวชที่เข้าใจยากเท่านั้น แต่ยังมีอักษรละตินด้วย ซึ่งเป็น ตัวอักษรที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เนื่องมาจากคริสต์ศาสนา เราจึงมีคำ มากมายมาจากภาษาละติน และภาษากรีกด้วย kyrka, kors, munk คำที่เรารับมาจากภาษาอื่น มาเป็นภาษาของตนเอง เราเรียกว่า "คำยืม" น่าแปลกไหม เพราะเราไม่เคยเอา มันไปคืนเลย ในช่วงยุคกลาง พ่อค้าและช่างฝีมือชาวเยอรมัน จำนวนมากย้ายเข้ามาสวีเดน เราจึง'ยืม'คำหลายๆคำมาจากพวกเขา skomakare, snickare, skåp, tröja รวมทั้งคำนี้ Fönster ซึ่งมาจากคำเยอรมันว่า 'venster' แล้วเราไม่มีคำนั้นใช้เองเหรอ? มีสิคำว่า "Vindöga" และขณะที่เราแทนที่คำนั้นด้วยคำใหม่ ภาษาอังกฤษเองก็ยืมคำจากพวกเราไป โดยมันเพี้ยนไปเป็นคำว่า 'window' ในศตวรรษที่ 17 และ 18 ฝรั่งเศสเป็นดินแดนที่มีอิทธิพล ต่อสวีเดนมากที่สุด การไม่รู้ภาษาฝรั่งเศสก็เหมือนกับ การไร้ความหวัง ในพระราชวังหลวงของสวีเดนในสตอกโฮล์ม แน่นอนว่าพวกเขาพูดภาษาฝรั่งเศสได้ ภาษาสวีเดนจึงได้คำยืม เช่น Paraply, balett, applåd, fåtölj ... kalsong ภาษาอังกฤษมีอิทธิพลต่อเรามากที่สุด ในศตวรรษต่อมา ในช่วงศตวรรษที่ 19 การปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ ได้มาถึงสวีเดน เราจึงได้คำที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจ แรงงาน และการเมือง เช่น jobb, bojkott, strejk, konservativ, intervju, reporter. ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 จนถึงทุกวันนี้ เรายืมคำหลายคำมาจากอเมริกา โดยเฉพาะคำที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ อาหาร เทคโนโลยี และกีฬา Pop, Hip hop, Hamburgare, popcorn, Smartphone, selfie, airbag, modem, Internet, skateboard, surfa. ในปีที่ผ่านๆมา เรายืมคำภาษาอังกฤษ จากโลกของเกม ตัวอย่างเช่น LAN ย่อมาจาก Local Area Network เราทำให้เป็นภาษาสวีเดนโดยพูดว่า LAN:ar และสำหรับคอเกม ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ใช้คำพวกนี้ Levla, spawna เมื่อมีการเพิ่มคำศัพท์ใหม่ในภาษาของเรา เราจะเรียกมันว่า "Nyord" อาจเป็นคำที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษ หรือจากผู้ย้ายถิ่นที่กลายมาเป็นคนสวีเดน เช่น ยัลล่ะ (Jalla) แต่อาจเป็นคำสร้างใหม่ที่เกิดขึ้นด้วย ความจำเป็น ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในสังคม เช่นคำว่า เฮ็น (Hen) ภาษาของเราเติบโต และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เจ๋งเลย แต่ช่วยปล่อยให้ฉันอยู่เงียบๆ เพื่อเล่นเกมได้ปะ?