
รูปคำกริยาของกาลต่างๆ ในภาษาสวีเดน

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
True or false? In Swedish, verbs change form depending on when something occurs.
'คำ'มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน มีคำอยู่ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเฉพาะตัว ที่ดูค่อนข้างยุ่ง คำชนิดนี้จะเปลี่ยนรูปไปตามกาลหรือเวลา แล้วเรากำลังพูดถึงคำชนิดไหนอยู่กันนะ? ใช่แล้ว ก็คำกริยาไงล่ะ คำกริยามีดีอยู่หลายอย่าง เช่น มันสามารถบอกเราได้ ว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ต่อไปนี้เป็นประโยคบางส่วน สังเกตุที่คำกริยาแล้วลองบอกซิว่า มันเป็นอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต Det låg fartyg utmed kajen. Längst bort fanns en stor lyftkran, som hade rostat så mycket att den stod och lutade. När du trycker på knappen här under, spelar filmen i en annan hastighet. Trycker du på paus så stannar den. Jag ska diska och sen kommer jag att tvätta, men först ska jag vila lite. ดูที่คำกริยาพวกนั้นสิ คำกริยาเหล่านี้บอกกับเราว่า มันเกิดขึ้นมาแล้ว ในอดีตที่ผ่านมา และคำกริยาพวกนี้ก็บอกเราว่า มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ ส่วนคำกริยาเหล่านี้บอก ถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่มันจะเป็นเช่นนั้น ซึ่งก็ไม่แน่หรอกว่ามันจะเกิดขึ้นทั้งหมด นอกจากตรงที่บอกว่าพักผ่อน การเปลี่ยนคำกริยา ให้เหมาะกับเวลาเช่นนี้ คือการผันกริยาไปตามกาล กาลหมายถึงเวลา และคำกริยาก็มีรูปแบบที่ต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับกาล นี่คือตัวอย่างเพิ่มเติม Ska äta Äter Åt Har ätit Kommer att flyga Flyger Flög Hade flugit อย่างที่เห็น, กาลบางส่วนจะมีรูปคำกริยา เป็นของตัวเอง "รูปกริยา" กาลอื่นๆ เช่นพวกนี้ สร้างขึ้นโดยการเพิ่มคำกริยาพิเศษเข้าไป มันคือกริยาช่วย จะเห็นว่ามีหลายวิธี ที่จะแสดงเวลาที่ผ่านมาและเวลาในอนาคต มาดูตัวอย่างดีกว่ามันจะได้ชัดเจนขึ้น Förfluten tid: Jag åt mat igår.
Jag har ätit mat. Jag hade ätit mat. Framtid: På tisdag skall vi flyga till Paris. På tisdag kommer vi flyga. På tisdag flyger vi. หยุดวิดีโอสักครู่แล้วลองอ่านประโยค เหล่านี้ให้ดีๆ นะ มีอะไรต่างกันไหม ระหว่างวิธีแสดงเวลาในอดีตแบบต่างๆ หรือระหว่างวิธีการต่างๆในการแสดง เวลาในอนาคต มันมีความหมายเหมือนกัน หรือเกือบเหมือนกันไหม? เมื่อเราเขียนเรื่องราวหรืองานประพันธ๋ ขึ้นมา มันจะดูฉลาดถ้าเราไม่เอากาลมาปนกันมาก เกินไป ฟังตัวอย่างนี้และดูซิว่าจะเห็น อะไรแปลกๆไหม Det var en vacker morgon.
Hon klär på sig och tittade ut genom fönstret. Solen skiner, men det har regnat och gatan är ännu blöt. นั่นไม่ได้ฟังดูดีเท่าไหร่ ดูตรงกริยาสิ, จะเห็นกาลที่หลากหลายมาก ลองอีกทีนะ Det var en vacker morgon. Hon klädde på sig och tittade ut. Solen sken, men det hade regnat och gatan var ännu blöt. ดีขึ้นไหม? ตอนนี้กาลสอดคล้องกันหมดแล้ว เราจึงพูดได้ว่า, เรามี... ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลของกาล คำกริยาส่วนใหญ่ใช้กาลเดียวกัน แต่ไม่ทั้งหมด ดูตรงนี้นะ นี่ไม่ใช่กาลเดียวกันกับส่วนอื่น ของข้อความหรอก หยุดวิดีโอแล้วดูซิว่าจะรู้ไหมว่าทำไม ฝนได้หยุดตกไปแล้วเมื่อเธอมองออกไป ดังนั้นมันจึงได้มาซึ่งกาลที่ถูกต้อง ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลของกาล หมายถึง การสอดประสานกันของเวลาในข้อความ ไม่ใช่ว่ามันจะต้องเหมือนกันในทุกจุด ตอนนี้เราได้ดูวิดีโอเกี่ยวกับกาลแล้ว เรากำลังดูมัน 2-3 วินาทีสุดท้าย อีกแป๊บเดียวเราก็จะได้ดูมันจนจบ และในอนาคตเราอาจได้ดูมันอีกครั้ง