รูปของคำกริยาที่สำคัญ

ลองฟังการท่องคำกริยาต่อไปนี้ แล้วดูซิว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นมา ได้อย่างไร Cykla, Cyklade, Cyklat Plocka, Plockade, Plockat Sova, sov, sovit มาทบทวนคำกริยาพื้นฐานกันก่อน คำกริยาเป็นคำที่จะเปลี่ยนรูปไป โดยขึ้นอยู่กับว่าการกระทำนั้น เกิดขึ้นเวลาใด คำกริยาที่ผันรูปไปเป็นรูปแบบต่างๆ เรียกว่า"รูปกริยา" ความแตกต่างกันของเวลา ที่กริยาแสดงคือ กาล (tense) กาลบางชนิดมีรูปกริยาเป็นของตนเอง เช่น อดีตกาลสามัญ Åt, sov, dog กาลอื่นๆ ถูกสร้างขึ้นจาก การนำเอาคำกริยาช่วยมารวม กับกริยาหลักบางรูป เช่น ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ Har ätit, har sovit, har dött กริยาพื้นฐานเป็นรูปกริยาแบบหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นกาล เพราะมันไม่ได้บอกเวลาที่การกระทำนั้นเกิด รูปกริยาพื้นฐานเป็นกริยาที่ยังไม่ได้ เปลี่ยนรูป เช่น ต่อไปนี้ Äta, sova, dö เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำรูปแบบ ของคำกริยาทั้งหมด เราจะใช้การท่องแบบตอนต้น การท่องแบบนี้มีประโยชน์ ไม่ว่า เราจะพยายามทำความเข้าใจภาษา ของตนเองให้ดีขึ้น หรือการกำลังเรียนรู้ภาษาใหม่ เราจะสร้างบทท่องสำหรับกริยาแต่ละชนิด ซึ่งประกอบด้วยกริยาทั้งหมด 3 แบบ เราเรียกมันว่า"กริยานำร่อง" ช่องแรก เราจะใส่กริยารูปพื้นฐาน ซึ่งเป็นรูปที่เราจะพบได้ในพจนานุกรม และเราจะใส่คำว่า att ไว้ที่หน้าคำ Kasta Höra Tro Bryta Gå ช่องต่อไป เราจะใส่กาล (tense) ที่เป็น"อดีตกาลสามัญ" ซึ่งมันเป็นได้ทั้ง 'รูปกริยา' และ 'กาล' ที่บอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต เราสามารถใส่ igår ไว้ด้านหน้าของกริยาในรูปอดีตกาล Kastade Hörde Trodde Bröt Gick และช่องสุดท้ายจะเป็นคำกริยา ที่อยู่ในรูปของ"อดีตกาลต่อเนื่อง" "อดีตกาลต่อเนื่อง"เป็นรูปกริยาที่เราใช้ สร้างกาล(tense) ทั้ง"ปัจจุบันกาลสมบูรณ์" และ"อดีตกาลสมบูรณ์" เราสามารถใส่คำว่า har หรือ hade ลงไปหน้าคำกริยา"อดีตกาลต่อเนื่อง" ขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการสร้างกาล (tense) แบบใด Kastat Hört Trott Brutit Gått และที่กล่าวมานั้น ก็คือคำกริยานำร่อง ของคำกริยาทั่วไป มาฝีกท่องกันต่อเถอะ Kasta, kastade, kastat Höra, hörde, hört Tro, trodde, trott Bryta, bröt, brutit Gå, gick, gått เราสามารถใส่รูปกริยาได้มากกว่า สามช่องนะ ถ้าสนใจน่ะ ก่อนที่จะเอาไปฝึกจริงน่ะนะ