
หลักไวยากรณ์คืออะไร

อัปเกรดสำหรับเนื้อหาเพิ่มเติม
What is it called when a word changes partly or completely to show what role it plays in the sentence?
Hund Maria gå. Va? Gå hund … Maria Jag fattar inte. Hund. Ut?
Vill du att vi går ut med hunden? Träd. Trä-äd? Blomma Blom-ma มาเรียกำลังสอนคำศัพท์ให้ลิงโก้ แต่มันก็ยังยากที่จะเข้าใจ ในสิ่งที่ลิงโก้พูด คำพวกนี้ไปกันคนละทางเลย มีบางอย่างขาดหายไป ดูนี่นะ ในการพูดภาษาต้องมี 2 สิ่ง สิ่งแรกคือคำศัพท์ และสิ่งที่สองคือต้องรู้ว่า จะผสมคำต่างๆ ได้อย่างไร สิ่งนี้เรียกว่าไวยากรณ์ของภาษา ลองคิดว่าภาษาเป็นเหมือน เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง ที่อยู่ในกล่องแบนๆและประกอบ กันได้เอง ถึงจะมีชิ้นส่วนครบแต่ยังก็ไม่พอ เรายังต้องมีคู่มือที่อธิบายว่า แต่ละชิ้นส่วนจะประกอบกันอย่างไร อะไรมาก่อนมาหลัง เพียงเท่านี้เราก็จะเข้าใจว่า แต่ละชิ้นส่วนทำงานยังไง เช่นเดียวกับภาษา ถ้าไม่มีไวยากรณ์ เราก็ไม่รู้ว่าคำเหล่านี้ผสมผสาน เป็นสำนวนและประโยคได้อย่างไร ไวยากรณ์คือสิ่งที่ให้บริบท แบบนี้ หากมีการเรียนรู้ภาษามาตั้งแต่ยังเด็ก เราอาจรู้ไวยากรณ์ได้โดยไม่รู้ตัว เพียงแค่ได้ยินก็รู้แล้วว่า มันผิด ถ้ามีคนพูดว่า en bord Så kan man inte säga. ใช่แล้ว มันควรจะเป็นอย่างนี้ ett bord แต่ถ้ามีคนถามว่าทำไม, เราก็อาจตอบไม่ได้ Det bara är så? อาจเรียกมันได้ว่าความรู้จากจิตใต้สำนึก เหมือนกับที่เราเดินหรือขี่จักรยานได้ โดยไม่รู้จริงๆว่าเราทรงตัวได้อย่างไร เราเพียงแค่ทำมัน หากว่ามีการเรียนภาษาเมื่อสายแล้ว หรือที่เรากำลังเรียนอยู่ตอนนี้ มันอาจจะยากที่จะรู้ว่า สิ่งใดถูกหรือผิดในภาษาใหม่ เราต้องฝึกใช้ไวยากรณ์ และเรียนรู้กฎต่างๆ คำส่วนใหญ่ในภาษามักเป็นคำสำหรับ สิ่งต่างๆหรือกิจกรรมและคำอธิบาย ตัวอย่างเช่น Boll kasta and grön คำที่มีความหมายมากมายเหล่านี้ คือ "คำที่เป็นสาระ" คำที่เป็นสาระยังสามารถเป็นชื่อของบุคคล เช่น มาเรีย นี้เรียกว่าชื่อเฉพาะ คำอื่นแสดงให้เห็นว่าคำต่างๆ ไปด้วยกันอย่างไรตามหลักไวยากรณ์ นี่เรียกว่าคำประกอบ อาจเป็นคำที่ใช้แทนชื่อ เช่นคำว่า ฉัน อาจะเป็นคำนำหน้าคำนาม เช่น a หรือ an หรือเป็นคำที่บ่งบอกทิศทางอย่างคำว่า to ลองใส่คำประกอบเข้าไป jag till en แต่เราก็ยังไม่เข้าใจประโยคนี้อยู่ดี จะต้องมีมากกว่านั้น การจัดเรียงคำ หรือการลำดับคำ เป็นส่วนสำคัญยิ่งของหลักไวยากรณ์ ลองเปลี่ยนตำแหน่งดูซิ Maria kasta en grön boll till jag ประโยคเริ่มมีเหตุผล แต่มีมากกว่านั้น คำก็สามารถเปลี่ยนรูปได้ เพื่อแสดงบทบาทที่มัน กำลังเป็นอยู่ในประโยค สิ่งนี้เรียกว่าการผันคำ เมื่อผันคำ คำจะเปลี่ยนไปในรูปแบบต่างๆ ซึ่งอาจเปลี่ยนบางส่วน หรือเปลี่ยนไปทั้งหมด การขว้างและกำลังขว้าง ใช้คำที่เป็นสาระเหมือนกัน แต่คำที่สองจะผัน เพื่อแสดงว่ามันกำลังเกิดขึ้นตอนนี้ Maria kastar en grön boll till mig. ตอนนี้เรามีประโยคที่เราสามารถเข้าใจได้ มันคือมาเรียผู้ซึ่งกำลังขว้างบอล ลูกบอลมีสีเขียว เธอกำลังขว้างมันตอนนี้ และเธอกำลังโยนให้ฉัน หากไม่มีไวยากรณ์ เราจะไม่เข้าใจประโยคเต็ม มันจะกลายเป็นคำศัพท์แถวหนึ่ง ด้วยไวยากรณ์ ทำให้เราเข้าใจบริบท และบริบทจะกลายเป็นที่เข้าใจได้ โดยใช้คำประกอบ การลำดับคำ และการผันคำ Hm… ...läsa bok. Jag …läser en bok. เยี่ยมเลยลิงโก้ นายกำลังเริ่มเรียนรู้ไวยากรณ์ En bok...läser mig!
Nej, alltså åh!