อนุประโยค

สุนัขกำลังเห่า หูของฉันเจ็บ สุนัขเห่าเสียงดัง แน่นอนว่าไม่ได้ดังขนาดนั้น ประโยคของลิงโก้ค่อนข้างสั้นและเรียบง่าย มาดูหนึ่งในนั้นกัน Hunden skäller นี่คือ"ประโยค"หนึ่งประโยค "ประโยค"ที่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร จะขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ และจะปิดท้ายด้วยจุด เครื่องหมาย อัศเจรีย์ หรือเครื่องหมายคำถาม "ประโยค"หนึ่งๆไม่ต้องการสิ่งใดๆอีก เพื่อให้เราเข้าใจความหมาย เพราะมันสมบูรณ์ตามหลักไวยากรณ์อยู่แล้ว "ประโยค"หนึ่งประโยค อาจสั้นหรือยาวก็ได้ Hunden skäller så väldigt högt att Lingo får ont i öronen och måste hålla för dem, men ekorren bryr sig inte. "ประโยค"ที่ยาวๆมักประกอบด้วย ส่วนย่อยเล็กๆ ที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกันตามหลักไวยากรณ์ และเกือบจะเป็นประโยคได้เอง ส่วนย่อยเหล่านี้เรียกว่า"อนุประโยค" "ประโยค"นี้มี"อนุประโยค" อยู่เพียงอนุประโยคเดียว Hunden Skäller แต่ใน"ประโยค"ที่ยาวขึ้นนี้ มีถึง 4 "อนุประโยค" เกือบทุกๆ"อนุประโยค"จะต้องมีองค์ประกอบ อย่างน้อย 2 ส่วนย่อย เรียกว่า "องค์ประกอบของอนุประโยค" องค์ประกอบแรกของอนุประโยคนี้ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่ 'อนุประโยค'เกี่ยวข้องด้วย องค์ประกอบที่สองของ'อนุประโยค'นี้อธิบาย ว่าใครหรืออะไรที่กำลังทำสิ่งนั้นอยู่ ส่วนนี้จะอธิบายว่าอะไรกำลังที่เกิดขึ้น Skäller และส่วนนี้ก็จะอธิบายว่า ใครกำลังทำมันอยู่ Hunden ทั้งสองส่วนจะร่วมกันสร้างอนุประโยคขึ้นมา Hunden skäller อนุประโยคต่างๆอาจสั้นหรือยาวก็ได้ Den fina, lurviga hunden skäller verkligen jättehögt. ตอนนี้ทั้งสอง'อนุประโยค'มีองค์ประกอบที่ ยาวขึ้น แต่มันยังคงอธิบายถึงสิ่งเดียวกัน คือมีอะไรเกิดขึ้นและใครเป็นผู้กระทำ อนุประโยคนั้นจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน Hunden skäller 'อนุประโยค'ดังกล่าวสามารถเป็น'อนุประโยค' ได้ในตัวเอง "อนุประโยคหลัก" "อนุประโยคหลัก"มีองค์ประกอบสมบูรณ์ ในตัวเองเหมือนกับ"ประโยค" และใน"ประโยค"ที่ยาวกว่านี้อาจประกอบด้วย "อนุประโยคหลัก"ได้มากกว่า 1 อนุประโยค Hunden skäller och Lingo får ont i öronen. Hunden låter jätte högt, men ekorren sover. โปรดสังเกตตรงนี้ คำเหล่านี้ : och, men คือคำที่เชื่อมโยง"อนุประโยค" หลักต่างๆ เข้าด้วยกัน "คำสันธาน" ถ้าเราเอามันออกไป เราจะได้"อนุประโยค"ที่เป็นอิสระ 2 อนุประโยค Hunden skäller. Lingo får ont i öronen. Hunden låter jätte högt. Ekorren sover. "อนุประโยคหลัก"เช่นนี้สามารถกลายเป็น "ประโยค"ได้ในตัวมันเอง ดังนั้น ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่า "อนุประโยคหลัก"คืออะไร แต่ยังมี"อนุประโยค"อีกแบบ นี่คือประโยคใหม่ที่มี 2 อนุประโยค Hunden skäller så att Lingo får ont i öronen. ลองแยกพวกมันออกมากัน แต่นี่มันใช้ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? ...så att Lingo får ont i öronen อะไรกันทำให้ลิงโก้ปวดหู? หากไม่มีครึ่งแรกของ"ประโยค" เราก็คงไม่รู้อะไรเลย ดังนั้น "อนุประโยค"นี้ จึงไม่อาจเป็น"อนุประโยคหลัก"ได้ แต่มันเป็น"อนุประโยครอง" "อนุประโยครอง"เป็นส่วนหนึ่ง ของ"อนุประโยคหลัก" และจะต้องอยู่ภายใน"อนุประโยคหลัก" เราจึงจะเข้าใจตลอดทั้ง"ประโยค" มาดู"อนุประโยครอง"ต่างๆเพิ่มกันอีก eftersom den sover. อะไรกำลังนอน? อะไรเป็นสาเหตุที่เกี่ยวข้อง? เราก็ไม่รู้ แต่ถ้าเราใส่"อนุประโยครอง"นี้ ลงไป แทนที่จุดที่เป็น"อนุประโยคหลัก" เราก็จะเข้าใจประโยคนี้ Ekorren verkar inte vara rädd, eftersom den sover. อะไรกำลังเกิดขึ้นตอนนี้?

trots att hunden skäller. นี่ก็เป็นอีก"อนุประโยครอง" แล้วมันควรจะใส่ไว้ตรงไหนดีล่ะ? "อนุประโยครอง"สามารถอยู่ภายใน "อนุประโยครอง"อื่นได้ แบบนี้ Ekorren verkar inte vara rädd, eftersom den sover trots att hunden skäller. "อนุประโยครอง"ยังสามารถอยู่ ก่อนหน้า"อนุประโยคหลัก"ได้ Fastän hunden skäller så högt sover ekorren ถ้าเราจับเอา"อนุประโยค"ต่างๆมารวมกัน เราก็จะเข้าใจประโยคนั้นมากขึ้น ใช่ไหมล่ะ ลิงโก้? ได้ยินไหมเนี่ยลิงโก้? ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย ก็เสียงสุนัขเห่ามันกลบหมดแล้วน่ะ